ครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประเทศ

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. … และรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงพลังงาน เสนอ

มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้เองในที่อยู่อาศัยหรือในสถานประกอบกิจการ โดยมุ่งเน้นให้กระบวนการติดตั้งอุปกรณ์เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ควบคู่กับการวางกรอบการกำกับดูแลการติดตั้งและการใช้ไฟฟ้าให้เป็นไปอย่างถูกต้องและมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยและวิศวกรรม เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายกลางที่ส่งเสริมและสนับสนุนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) เพื่อใช้เองเป็นการเฉพาะ ส่งผลให้ในการดำเนินการต่างๆ ต้องอ้างอิงกฎหมายและระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฉบับทำให้ขาดความเป็นเอกภาพ ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนในการขออนุญาตหรือการจดแจ้งยกเว้นเกี่ยวกับการติดตั้ง Solar Rooftop สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงพลังงานและความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการ ที่ประชาชนและภาคธุรกิจแบกรับภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่าย และยังลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประเทศ ตลอดจนลดการพึ่งพาด้านพลังงาน และการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างชาติ รวมทั้งยังช่วยให้การเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทยไปสู่พลังงานสะอาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ ยังเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการลดและปรับโครงสร้างราคาพลังงานและนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy หรือ Eco-friendly Economy) และการสานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จึงได้ยกร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. …ขึ้น โดยพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีเนื้อหาสาระสำคัญทั้งหมด 5 เรื่อง ประกอบด้วย

1. การกำหนดวัตถุประสงค์ของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ที่สนับสนุนส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยหรือในสถานประกอบกิจการ เพื่อให้การติดตั้งอุปกรณ์ Solar Rooftop เป็นไปด้วยความปลอดภัย สะดวกและรวดเร็ว เป็นประโยชน์ในการรวบรวมข้อมูล สถิติ และจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในที่อยู่อาศัย หรือสถานประกอบกิจการ ซึ่งกรณีนี้ไม่ถือเป็นการประกอบกิจการพลังงานตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการพลังงาน และไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยโรงงาน กฎหมายว่าด้วยการผังเมือง กฎหมายว่าด้วยการพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน และไม่ถือเป็นการดัดแปลงอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร

2. การติดตั้ง Solar Rooftop กรณีดังกล่าวไม่ต้องขออนุญาตกับหน่วยงานของรัฐ แต่ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ การติดตั้งอุปกรณ์ Solar Rooftop ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้แล้ว ไม่ต้องขออนุญาตการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าอีก การติดตั้งต้องจัดให้มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างหลังคาหรือสิ่งคลุมสถานที่ติดตั้งว่าสามารถติดตั้งได้อย่างปลอดภัย ให้เจ้าของสถานที่ที่จะติดตั้งอุปกรณ์ระบบ Solar Rooftop แจ้งที่อยู่ของสถานที่ติดตั้ง และข้อมูลของอุปกรณ์ระบบ Solar Rooftop ที่ติดตั้ง หลักฐานการรับรองความปลอดภัย และข้อมูลอื่น ตามหลักเกณฑ์ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน กำกับให้มีการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จาก Solar Rooftop เฉพาะในสถานที่ติดตั้งเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายหรือให้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากสถานที่ติดตั้งได้ เว้นแต่เป็นการจำหน่ายหรือให้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แก่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

3. การกำกับติดตามอุปกรณ์ Solar Rooftop ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และการห้ามถอดแยกชิ้นส่วนซากอุปกรณ์ Solar Rooftop เว้นแต่ เป็นการถอดและประกอบกลับเข้าตามเดิม การซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำ การดำเนินการเพื่อการศึกษา ทดลอง และวิจัย หรือการถอดแยกของสถานกำจัดซากอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์

4. กำหนดหน้าที่และอำนาจของเจ้าพนักงาน เพื่อการตรวจสอบและติดตามการติดตั้งอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์

5. กำหนดบทลงโทษสำหรับการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ ดังนี้

ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่แจ้งการติดตั้งอุปกรณ์ Solar Rooftop ภายใน 30 วัน ให้ชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 1,000 บาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

ผู้ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้เกี่ยวกับการติดตั้งระบบอุปกรณ์ Solar Rooftop หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และถ้าการกระทำผิดดังกล่าวน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเกี่ยวกับการใช้และการจำหน่ายไฟฟ้าที่ได้จาก Solar Rooftop ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและปรับอีกไม่เกินวันละ 1,000 บาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเกี่ยวกับการกำกับติดตามอุปกรณ์ Solar Rooftop ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 1 หมื่นบาทจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเกี่ยวกับการถอดแยกชิ้นส่วนซากอุปกรณ์ Solar Rooftop ให้ชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5 หมื่นบาท

ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้จะไม่กระทบต่องบประมาณและการสูญเสียรายได้ของรัฐอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ซื้อไฟฟ้าจากโรงงานไฟฟ้าเอกชนมาจำหน่ายให้ประชาชนเป็นปริมาณที่สูงกว่าการผลิตไฟฟ้าจำหน่ายเอง ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต คือ ค่าไฟฟ้าที่ซื้อจากโรงไฟฟ้าเอกชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง