จังหวัดเชียงราย เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย ภายหลังสถานการณ์คลี่คลาย

จังหวัดเชียงราย เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย ภายหลังสถานการณ์คลี่คลาย พร้อมกำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำจัดสิ่งกีดขวางในคูคลอง เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมรับมือฝนที่จะตกลงมาอีกระลอกช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนนี้

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากสถานการณ์พายุวิภา ต่อเนื่องด้วยร่องมรสุมกำลังแรง จังหวัดเชียงรายเกิดฝนตกหนัก ทำให้ลุ่มน้ำอิงเอ่อไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนลุ่มต่ำ ได้นำเครื่องผลักดันน้ำจากกรมชลประทาน 10 เครื่อง เร่งผลักดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขง  ขณะเดียวกัน แม่น้ำสาย มีระดับน้ำสูงสุดในปีนี้ ทำให้แนวป้องกันน้ำชำรุดไหลเข้าท่วมที่อยู่อาศัยของประชาชน ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้วร้อยละ 90  มณฑลทหารบกที่ 37 และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งทำความสะอาดบ้านเรือน พร้อมซ่อมแซมคันกั้นน้ำที่ชำรุด  ตลอดจนเข้าสำรวจพื้นที่ เพื่อจะจ่ายเงินเยียวยาชดเชยตามระเบียบราชการ

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีฝนตกอีกระลอกช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนที่จะถึงนี้  จึงเน้นย้ำให้นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ -องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งกำจัดสิ่งกีดขวางในคูคลอง เพื่อให้การระบายน้ำเร็วขึ้น รวมทั้งกำหนดจุดปลอดภัยทุกหมู่บ้าน-ทุกชุมชนเพื่ออพยพประชาชน และที่สำคัญ ได้แจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast และนำรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ แจ้งเตือนในชุมชน/หมู่บ้าน ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังกล่าวถึงแนวทางป้องกันในระยะยาว โดยเฉพาะพื้นที่แม่สาย น้ำไหลมาจากประเทศเมียนมา ว่าปัจจุบันติดตั้งสถานีโทรมาตรของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากจำนวน 4 สถานี โดยอยู่ในประเทศเมียนมา 3 สถานี  และได้เปิดศูนย์บัญชาการตลอด 24 ชั่วโมงที่อำเภอแม่สาย มีอาสาสมัครติดตามสถานการณ์  เมื่อเกิดวิกฤตจะส่งสัญญาณมาที่เครือข่าย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอแม่สาย เพื่อแจ้งเตือนประชาชนได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ได้ย้ายตลาดสายลมจอยไปค้าขายในที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการได้รับความเสี่ยง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง