นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ. ได้พิจารณาข้อเสนอการปรับค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (ค่า Ft) ประจำเดือนกันยายน – ธันวาคม 2568 ตามข้อเสนอของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยในครั้งแรกเสนอหน่วยละ 3.98 บาท และเสนอขอปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าเป็นหน่วยละ 3.95 บาท โดยขอให้ กกพ. นำเงินจากการเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกิน ที่อยู่กับ กฟผ. ประมาณ 4,900 ล้านบาท ลดค่าไฟฟ้าและภาระหนี้ของ กฟผ. เพิ่มเติมในรอบนี้ด้ว
ทั้งนี้ กกพ. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 67 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 ซึ่งเมื่อตรวจสอบยอดเงินจากการเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินที่อยู่ กฟผ. ประมาณ 4,955 ล้านบาทกับเงินที่อยู่กับ กฟภ. และ กฟน. พบว่ามียอดรวมทั้งสิ้น 7,927 ล้านบาท กกพ. จึงมีมติให้นำเงินจากการเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินประมาณ 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,640 ล้านบาท มาลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน หรือคิดเป็นหน่วยละ 4 สตางค์ เป็นผลให้อัตราค่าไฟฟ้าที่ กฟผ. เสนอมาในครั้งแรกหน่วยละ 3.98 บาท ปรับลดเหลือหน่วยละ 3.94 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยคิดเป็นค่าเอฟทีสำหรับเรียกเก็บในงวดประจำเดือนกันยายน – ธันวาคม 2568 ลดลงจากเดิม 19.72 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 15.72 สตางค์ต่อหน่วย และ กกพ. ให้นำเงินจากการเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินที่เหลืออีก 5,287 ล้านบาท ใช้สำหรับสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพอัตราค่าไฟฟ้าในรอบกำกับถัดไป