ภูมิธรรม รับพบทหารกัมพูชาแฝงตัวในไทย จ่อสอบโดรน 200 ลำเอี่ยวหรือไม่ กำชับผู้ว่าฯ ดูแลประชาชนเต็มที่

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการจับกุมทหาร BHQ องค์รักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย ว่า ให้ทางราชการได้ดำเนินการไป ตอนนี้มีความระแวดระวังในเรื่องนี้อยู่แล้ว เนื่องจากมีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แม้จะยังยืนยันด้วยข้อเท็จจริงไม่ได้ว่า เป็นคนของคนนั้นคนนี้ แต่เราทราบว่ามีลักษณะที่เข้ามาเป็นพิเศษ ซึ่งมีมติไปแล้วว่าจะเข้มงวดเรื่องของการบินโดรนในพื้นที่ 7 จังหวัด  โดยพื้นที่เกษตรขอได้เป็นรายๆ เป็นช่วงที่ต้องเข้มงวด เพราะไม่รู้ว่าการเจรจาจะเป็นอย่างไร

ส่วนที่ กสทช.ตรวจพบโดรนมากกว่า 200 ลำ ที่จังหวัดสมุทรปราการ มีการจับกุมไปแล้วอยู่ระหว่างการสอบสวน ขอให้ผลสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วค่อยว่ากัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รายงานเข้ามาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับฝ่ายกัมพูชาหรือไม่ต้องไปดูข้อเท็จจริง เชื่อมโยงไปได้เท่าไรก็เท่านั้น แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องจบไป

ขณะที่ปัญหาศูนย์อพยพในพื้นที่ชายแดน เนื่องจากมีความต้องการคืนพื้นที่เพื่อเปิดการเรียนการสอน นายภูมิธรรม ระบุว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกลางได้ดูแลบังคับบัญชาข้าราชการ จะต้องทำหน้าที่เพื่อดูว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งจะต้องพิจารณาร่วมกับสถานการณ์ทางทหารด้วย ตนเองเห็นมีอดีต สส.และคนอื่นๆ ออกมาพูดว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เงินไม่ถึง ทั้งหมดเป็นปัญหาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งนั้น 

ผมบอกไปแล้วว่าจะต้องทำหน้าที่ให้ดีเพราะประชาชนทุกข์ยากเดือดร้อน ผู้ว่าฯ ต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่ อย่าให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ดูแลพี่น้องประชาชนให้ดี เขาทุกข์มามากแล้ว เขาลำบากมามากแล้ว ฉะนั้นเราต้องดูแลเขาให้เต็มที่

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า รัฐบาลพยายามทำหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเยียวยา หากผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ในพื้นที่แล้วไม่สามารถเป็นตัวแทนรัฐบาลทำงานได้ ก็จะต้องพิจารณาว่าบกพร่องเรื่องอะไรหรือไม่ เห็นที่หลายคนออกมาพูด ตนเองอยากจะให้ไปพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด อยู่ในจังหวัดก็ประสานงานกันดีอยู่แล้ว ทำไมถึงยังเป็นแบบนี้ก็แจ้งมาให้ชัดเจนว่าผู้ว่าฯ มีปัญหา หรือหน่วยงานไหนมีปัญหา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง