กวาดล้างเจ็ตสกีเถื่อน จังหวัดภูเก็ต ลอบให้บริการนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ลำ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.รน.3 กก.8 บก.รน. ลงพื้นมี่ตรวจสอบ 6 จุด ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย บริเวณท่าเรือยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พบผู้กระทำความผิดฐาน “ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ มาตรา 9 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2481 แก้ไขเพิ่มเติม โดย มาตรา 60 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2535” จำนวน 2 ราย 4 คดี

บริเวณท่าเรือแหลมหงา หมู่ 1 ต.รัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พบผู้กระทำความผิดฐาน “ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ มาตรา 9 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2481 แก้ไขเพิ่มเติม โดย มาตรา 60 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2535” จำนวน 2 ราย 2 คดี

บริเวณชายหาดอ่าวปอ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พบผู้กระทำความผิดฐาน “ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ มาตรา 9 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2481 แก้ไขเพิ่มเติม โดย มาตรา 60 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2535” จำนวน 2 ราย 9 คดี

บริเวณชายหาดแหลมตุ๊กแก ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พบผู้กระทำความผิดฐาน “ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ มาตรา 9 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2481 แก้ไขเพิ่มเติม โดย มาตรา 60 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2535” จำนวน 2 ราย 6 คดี

บริเวณชายหาดอ่าวปอ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พบผู้กระทำความผิดฐาน “ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ มาตรา 9 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2481 แก้ไขเพิ่มเติม โดย มาตรา 60 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2535” จำนวน 3 ราย 8 คดี

บริเวณชายหาดหน้าโรงแรม ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พบผู้กระทำความผิดฐาน “ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ มาตรา 9 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2481 แก้ไขเพิ่มเติม โดย มาตรา 60 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2535” จำนวน 3 ราย 9 คดี

สืบเนื่องจากตำรวจน้ำภูเก็ต เดินหน้ากวาดล้างเจ็ตสกีเถื่อนลักลอบให้บริการนักท่องเที่ยวโดยไม่มีใบอนุญาตอย่างเข้มข้น จับกุมผู้กระทำผิดในข้อหาใช้เรือก่อนการได้รับอนุญาตจากเจ้าท่าตามกฎหมาย จากปฏิบัติการระดมกวาดล้างสามารถตรวจยึดเจ็ตสกีผิดกฎหมายได้กว่า 38 ลำ ในหลายพื้นที่รอบเกาะภูเก็ต  โดยพบผู้ประกอบการบางรายเพิกเฉยต่อข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เสี่ยงต่อชีวิตนักท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากนี้จะเดินหน้าปราบปรามต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจและรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง