ประชุมผู้ว่าฯ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งการ 5 แนวทางดูแลประชาชนโดยคำนึงชีวิตและทรัพย์สินเป็นหัวใจสำคัญ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชากับผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตสุรินทร์ โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จาก จ.อุบลราชธานี

ผลการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชาที่ประชุม GBC ประเทศมาเลเซีย ว่าได้ข้อสรุปให้หยุดยิงทันที โดยมีอาเซียน สหรัฐอเมริกา และจีนร่วมสังเกตการณ์และลงพื้นที่จริง เพื่อรักษาสันติภาพและลดความสูญเสีย พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ ได้สั่งการ 5 แนวทางสำคัญ ได้แก่
1. อำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนกลับบ้าน โดยสามารถขอรับการสนับสนุนจากส่วนกลาง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้สั่งการทุกวนงานให้พร้อมสนับสนุนทันทีแล้ว โดยขอให้วางแผนบูรณาการความร่วมมือทุกส่วนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกลับให้ได้เร็วที่สุด รวมถึงการอำนวยความสะดวกในด้านอื่น ๆ หากอะไรที่ดำเนินการได้ตามกรอบกฎหมายให้ทำทันที และทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องเก็บบันทึกด้วยเพื่อจะได้มีหลักฐานเป็นประโยชน์ในการรักษาอธิปไตยของประเทศต่อไป
2. การสำรวจความเสียหาย สภาพความพร้อมบ้านพักอาศัย สาธารณูปโภค ให้พร้อมเข้าอยู่ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการประปาส่วนภูมิภาคจะไม่เรียกเก็บสำหรับบ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งศูนย์พักพิงทั้งหมด ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2568 สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือน ทุกส่วนราชการทั้งทหาร พลเรือน อาชีวะ สามารถช่วยเหลือโดยใช้เงินตามกรอบที่อนุมัติ รวมถึงเงินบริจาคที่ได้รับจากภาคส่วนต่าง ๆ โดยประสานมาที่ส่วนกลาง
3. การสำรวจประกอบอาชีพและสาธารณสุข ทั้งเรื่องสุขภาพกายใจ รวมถึงผู้ปฏิบัติงานทั้งทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ทุกคนในพื้นที่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ต้องดูแลให้ครอบคลุมครบถ้วน
4. การเบิกจ่ายเยียวยาในภาวะที่ประชาชนเผชิญกับความทุกข์ ต้องใช้จ่ายอย่างมีคุณภาพ ครบถ้วน เต็มที่ บนเหตุผลและหลักการที่ต้องรักษาอธิปไตยของประเทศและชีวิตพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา รวมถึงผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะเป็นผู้เสียสละสำคัญ ทั้งแนวหน้าและแนวหลัง สมเกียรติภูมิแห่งความเป็นข้าราชการแห่งรัฐ ทหารกล้า ตำรวจของแผ่นดิน และ
5. ค่าตอบแทนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จะดูแลให้ดีที่สุด โดยหากถ้าทำงานวันละ 6 ชั่วโมงขึ้นไปแต่ไม่ถึง 12 ชั่วโมง 120 บาท แต่ถ้าเกินจาก 12 ชั่วโมงขึ้นไป 240 บาท รวมแล้วประมาณ 117 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับ ชรบ. หมู่บ้านต่าง ๆ ประมาณ 32,740 นาย ในพื้นที่

    ข่าวที่เกี่ยวข้อง