นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีกรณีเหตุการณ์ที่นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุทัยธานี ทำร้ายครูผู้สอนเนื่องจากไม่พอใจคะแนนสอบในรายวิชาคณิตศาสตร์ ส่งผลให้ครูได้รับบาดเจ็บและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ว่า กระทรวงศึกษาธิการ จะประสานให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อค้นหาสาเหตุเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นภาวะความเครียด ความกดดันจากผลการเรียน หรือภาวะอื่นๆ
แม้จะเป็นโรงเรียนของเอกชน ก็ควรมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบและเห็นว่าจำเป็นต้องมีนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลนักเรียนโดยเร็ว เพื่อป้องกันผลกระทบทางจิตใจต่อครู นักเรียนและผู้ปกครอง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว สะท้อนประเด็นสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาและทบทวน ได้แก่ ระบบการสอบและการวัดประเมินผล หากระบบการเรียนการสอนสร้างแรงกดดันจนทำให้เด็กใช้ความรุนแรง จำเป็นต้องทบทวนว่ากำลังสร้างทรัพยากรมนุษย์แบบใดสู่สังคม การวัดประเมิน ทดสอบแบบใช้ตัวชี้วัดเดียวกับเด็กทุกคน อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ระบบการศึกษาไทย ยังละเลยการดูแลสุขภาพจิตของนักเรียน ทำให้บางคนใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่นหรือทำร้ายตนเอง สะท้อนถึงการขาดทักษะการรับรู้และจัดการอารมณ์ (Mental Health Literacy)
ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต พบว่า เด็กและเยาวชนมีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลและการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้น จนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของกลุ่มนี้ ปัญหายังเกิดกับครูด้วย ส่งผลให้เกิดความรุนแรงจากครูต่อเด็กเช่นกัน แม้กระทรวงศึกษาธิการจะดำเนินโครงการ School Health Hero และ OBEC CARE เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ความร่วมมือยังจำกัด และยังไม่ครอบคลุมถึงโรงเรียนเอกชน จึงควรพิจารณาให้ทีมสหวิชาชีพ เช่น นักจิตวิทยาและจิตแพทย์ เข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างครบวงจรและ สุดท้ายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสภาพจิตใจของทั้งครูและนักเรียนและยังเสี่ยงต่อการผลิตซ้ำความรุนแรงในสังคม ประชาชนเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้เกี่ยวข้องด้วย
