ปรับรูปแบบการแก้ปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ตั้ง 4 ม่านน้ำดักตะกอน

นายธีระชุณ บุญสิทธิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาสารปนเปื้อนเกินมาตรฐานในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาขา แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ว่า ขณะที่รูปแบบและวิธีดักตะกอนเพื่อแก้ปัญหาคุณน้ำในพื้นที่แม่น้ำกก และแม่น้ำสาย โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดินได้เห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนการก่อสร้างเป็นม่านน้ำดักตะกอน 4 แห่ง จากเดิมเป็นฝายดักตะกอน โดยจะใช้งบประมาณลดลงจากเดิมประมาณ 7,000 ล้านบาท เหลือเพียง 173 ล้านบาท ในส่วนของกรมทรัพยากรน้ำได้นำผลการออกแบบไปรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่และจัดทำข้อเสนอเพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบภายในเดือนกันยายนนี้ คาดว่า จะสามารถก่อสร้างได้ช่วงเดือนธันวาคมนี้

สำหรับม่านน้ำดักตะกอนทั้ง 4 แห่งดังกล่าว จะอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ 3 แห่ง และอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 1 แห่ง ซึ่งการออกแบบม่านน้ำดักตะกอน เทคนิคการสร้าง และแผนงานมีผู้เชี่ยวชาญจากนักวิชาการด้านแหล่งน้ำและอาจารย์มหาวิทยาลัยร่วมศึกษาวิเคราะห์ความเร็วการไหลของน้ำและการตกตะกอน เพื่อให้มั่นใจว่ารูปแบบและวิธีการดักตะกอนมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักวิชาการ พร้อมทั้งประสานกับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกำหนดรูปแบบและวิธีการเบื้องต้นในการแยกและเตรียมการกำจัดตะกอนที่มีสารปนเปื้อน โดยใช้รูปแบบเดียวกันการกำจัดตะกอนที่ลำห้วยคลิตี้ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งรูปแบบและวิธีดักตะกอนจะมีการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น เสนอข้อห่วงกังวล และแนวทางที่เหมาะสมในการสร้างม่านน้ำดักตะกอนสารปนเปื้อน

ขณะที่การจัดการแหล่งที่มาสารปนเปื้อนของประเทศต้นทางได้ประสานกับกระทรวงต่างประเทศเจรจาหารือร่วมกับประเทศเมียนมาเพื่อการแก้ไขปัญหา โดยได้เสนอตั้งคณะทำงานด้านเทคนิคร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงและการใช้กลไกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงในการติดตามและตรวจสอบคุณภาพน้ำ ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึง เสนอให้หยุดทำเหมืองชั่วคราวเพื่อปรับปรุงกระบวนการให้ถูกต้องและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่น การกำหนดค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำให้ใช้ค่ามาตรฐานเดียวกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง