ชุดข้อมูลการช่วยเหลือสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
“รวมใจไทยหนึ่งเดียว”
ประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2568
โดย กองส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ภาครัฐ กรมประชาสัมพันธ์
รัฐบาลยืนยันไม่เก็บค่าน้ำ-ไฟ ในพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่อพยพ บิลเดือน ก.ค. – ส.ค. 68 หากจ่ายเดือน ก.ค. ไปแล้วจะดำเนินการหักยอดในเดือน ก.ย. ทันที ส่วนกลุ่มที่เพิ่งได้รับใบแจ้งหนี้ไม่ต้องจ่าย
จากการนำเสนอข่าว ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ที่อพยพกลับจากศูนย์พักพิง ภายหลังสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคนั้น รัฐบาลยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีข้อสั่งการงดเว้นเก็บค่าไฟ และค่าน้ำ ประจำเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่อพยพไปแล้ว ดังนั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ จึงไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้าในใบแจ้งค่าไฟฟ้า หากกรณีชำระแล้ว กฟภ.จะดำเนินการคืนเงินโดยนำไปหักจากค่าไฟฟ้าในเดือนถัดไปได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1129 PEA Contact Center ตลอด 24 ชั่วโมง
รัฐบาลเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนชายแดนได้กว่า 60% ให้ครอบครัวกลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) รายงานความคืบหน้าในการติดตามการให้การช่วยเหลือประชาชน และบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา โดยดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จกว่า 400 หลังคาเรือน จากทั้งสิ้น 705 หลังคาเรือน ซึ่งที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซมที่ได้รับความเสียหายประมาณ 200 กว่าหลังคาเรือน
ทั้งนี้ อธิบดีกรมการปกครอง ได้รับรายงานจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอาวุธของกัมพูชาที่ยิงถล่มเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน โดยรัฐบาลได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การซ่อมแซมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน รวมทั้งลงพื้นที่สำรวจ และประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกในการใช้งบประมาณจากหลายภาคส่วน อาทิ กระทรวงมหาดไทย โดย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย
สำนักนายกรัฐมนตรี สภากาชาดไทยและเงินบริจาค โดยพบว่า บ้าน/ที่อยู่อาศัยประจำ ได้รับความเสียหายในพื้นที่ 4 จังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 705 หลัง เสียหายทั้งหลัง (เกิน 70%) รวมจำนวน 41 หลัง เสียหายมาก (30 – 70 %) รวมจำนวน 65 หลัง เสียหายน้อย (น้อยกว่า 30%) รวมจำนวน 599 หลัง (ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2568 เวลา 18.00 น.) รวมดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 60% อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม 374 หลัง แยกเป็นรายจังหวัด ได้แก่
– จังหวัดศรีสะเกษ 445 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 134 หลัง คงเหลือ 311 หลัง)
– จังหวัดอุบลราชธานี 139 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 129 หลัง คงเหลือ 10 หลัง)
– จังหวัดสุรินทร์ 107 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 58 หลัง คงเหลือ 49 หลัง)
– จังหวัดบุรีรัมย์ 14 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 10 หลัง คงเหลือ 4 หลัง)
รัฐบาลเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่และรอบด้าน โดยมอบหมายหน่วยงานให้เร่งเยียวยา ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายไม่ว่าจะทั้งหลังหรือบางส่วน ให้แล้วเสร็จให้เรียบร้อยโดยเร็วแล้ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหลายภาคส่วน รวมถึงการสนับสนุนกำลังพลจากหน่วยทหารในพื้นที่ เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติสุขโดยเร็ว