มุ่งส่งเสริมการผลิตอาหารหยาบคุณภาพสูง ช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์

นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “ถ่ายทอดเทคโนโลยีอาหารหยาบลดต้นทุนเพื่อเกษตรกร”ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาโคเนื้อ อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี ว่า รัฐบาลมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร โดยการลดต้นทุน เพิ่มรายได้และสร้างความมั่นคงในอาชีพ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มเกษตรกรรายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ที่ต้องเผชิญปัญหาต้นทุนอาหารสัตว์สูง จึงมอบหมายให้กรมปศุสัตว์ขับเคลื่อนโครงการผลิตอาหารหยาบคุณภาพสูงเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายย่อย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่ประสบภาวะขาดแคลนวัตถุดิบและบรรเทาความเดือดร้อนด้านต้นทุน และให้เข้าถึงองค์ความรู้และนวัตกรรม สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในฟาร์มและสร้างความมั่นคงในอาชีพได้อย่างยั่งยืน

โดยในปี 2568 กรมปศุสัตว์ได้ใช้พื้นที่กว่า 5,500 ไร่ ของหน่วยงาน 11 แห่งทั่วประเทศ ปลูกพืชอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพดและข้าวฟ่าง เพื่อนำมาแปรรูปเป็นอาหารหยาบคุณภาพสูงด้วยวิธีการหมัก คาดว่าจะได้ผลผลิตไม่น้อยกว่า 27,500 ตัน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โคเนื้อ แพะ แกะและกระบือ

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน (ตุลาคม 2567 – สิงหาคม 2568) มีการปลูกข้าวโพดในพื้นที่ศูนย์วิจัยและสำนักพัฒนาพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์ รวม 5,037 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 91.58 ของเป้าหมาย ได้ผลผลิตข้าวโพดพร้อมฝักสับหมักประมาณ 25,185 ตัน จากความสำเร็จดังกล่าว จึงได้ต่อยอดความสำเร็จสู่ “โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีอาหารหยาบลดต้นทุนการผลิต”เพื่อขยายองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปสู่เกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ และเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งจากการพิสูจน์แล้วพบว่าการใช้ข้าวโพดหมักสามารถเพิ่มปริมาณน้ำนมวัวได้จริง ทั้งนี่เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญเพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ราคาย่อมเยาและจะสร้างความมั่นคงให้กับภาคการเกษตรของไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง