กรมพัฒนาธุรกิจการค้านำ 10 แฟรนส์ไทย บุกตลาดมาเลเซีย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ นำทีมผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทย 10 แบรนด์ เป็นธุรกิจอาหาร 6 แบรนด์ ได้แก่ ZENFRY (เฟรนซ์ฟรายถั่วเขียว) อาหารไทย de Tummour มุมกะเพรา MOOMGAPAO (ข้าวผัดกะเพรา) ชิกกี้ชิก ไก่ทอดทานเล่น เฮง ปัง ปั๊ว หวานเย็นสูตรเยาวราช ไผ่ทองไอศครีม รวมทั้งธุรกิจเครื่องดื่ม 2 แบรนด์ ได้แก่ Colla Tea Thailand ชานมไข่มุกผสมคอลลาเจน  และ Fresh Me (ชานม ชาผลไม้)  ธุรกิจการศึกษา 1 แบรนด์ คือ Math Talent By Dr. Ying (สถาบันสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โคดดิ้ง)  และธุรกิจบริการ 1 แบรนด์ ได้แก่ ร้านสะดวกซัก Otteri wash & dry เข้าร่วมงาน Franchise Expo Malaysia 2025 ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ 

โดยจัดคูหาในรูปแบบ “ไทยแลนด์พาวิลเลียน” เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้เห็นคูหาของประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งนักลงทุน สนใจคูหาของไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวมาเลเซียที่ชื่นชอบ แฟรนไชส์ไทย ถือเป็นโอกาสดีที่จะสามารถขยายตลาดให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น ซึ่งธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทย ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 3 แสนล้านบาท และมีการเติบโตเฉลี่ย 15-20% 

นางอรมน ย้ำว่า ได้คัดผู้ประกอบการอย่างเข้มข้นเพื่อการันตีคุณภาพ ถือเป็นปีแรกที่เห็นโอกาสในการพาแฟรนไชส์ออกไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จ ตลอด 3 วันของการจัดงาน Franchise Expo Malaysia 2025 ระหว่างวันที่ 21 – 23 สิงหาคม 2568 เบื้องต้น ผู้ประกอบการไทย สามารถปิดดีลเจรจาธุรกิจทันที 130 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 1 ปี จะเพิ่มไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท  โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง รวมถึงเป็นล่ามช่วยแปลการเจรจาธุรกิจ นอกจากนี้ นายวรวรรณ วรรณวิล ( วอ-ระ-วัน วัน-วิล) ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ (ทูตพาณิชย์) ยังนำ 4 แบรนด์ไทย ได้แก่ “ชาตรามือ”  ขนมไข่หาบ้าน(HAAB) ขนมไข่สูตรสงขลา โปเตโต้คอนเนอร์ และเขียง ร้านอาหารจานด่วน ที่บุกตลาดมาเลเซียมากว่า 1 ปี มาตั้งวงเสวนาถึงจุดแข็งของแต่ละแบรนด์ เพื่อเพิ่มการรับรู้ให้มากขึ้น ซึ่ง มาเลเซีย แม้มีประชากรเพียงครึ่งหนึ่งของไทยแต่สินค้าได้รับความนิยม จนเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย 

ด้านดาโต๊ะ เคน ปัว นายกสมาคมเครือข่ายค้าปลีกมาเลเซีย (Malaysia Retail Chain Association) มองว่า หลายร้านแฟรนไชส์ไทย ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร ซึ่งหลายร้านก็มีในมาเลเซียแล้ว โดยงาน Franchise Expo Malaysia 2025 เป็นงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ที่ยิ่งใหญ่ของมาเลเซีย จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 ที่ Kuala Lumpur Convention Centre (KLCC) ปีนี้ มีธุรกิจแฟรนไชส์จาก 10 ประเทศ 350 บูธ เข้าร่วมนำเสนอธุรกิจ คาดว่ามีผู้เข้าชมงานกว่า 18,000 คน และรายได้ จะเพิ่มจากปีที่แล้ว 20% ที่มีมูลค่า 100 ล้านริงกิต 

การนำผู้ประกอบการไทย เข้าร่วมนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในต่างประเทศ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Thai Franchise Towards Global 2568 ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า เจรจาและนำเสนอธุรกิจ แก่นักลงทุนชาวต่างชาติในงานแสดงสินค้าระดับสากล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง