นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงจัดซื้อเครื่องบินรบ Gripen E/F พร้อมความตกลงว่าด้วยนโยบายชดเชยทางเศรษฐกิจ (Offset Policy) ว่าข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้างแสนยานุภาพให้กองทัพ แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญในการผลักดันและต่อยอดไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศอย่างเป็นรูปธรรม การลงนามครั้งนี้ ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่สวีเดนและประชาคมโลก ภายหลังจากสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งกองทัพไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและการปฏิบัติตามหลักสากลอย่างชัดเจน ว่าไทยไม่มีแนวคิดที่จะใช้อาวุธเพื่อรุกรานประเทศเพื่อนบ้านและปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่รักสันติ เช่นเดียวกับสวีเดนและสหภาพยุโรป แต่ศักยภาพในการป้องกันประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การจัดซื้อเครื่องบิน Gripen ในครั้งนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ไทยร่วมมือกับนานาประเทศที่รักสันติ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการใช้อาวุธเพื่อปกป้องตนเองอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับในประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น
