ชุดข้อมูลการช่วยเหลือสถานการณ์ไทย-กัมพูชา“รวมใจไทยหนึ่งเดียว”มาตรการช่วยลูกบ้านการเคหะ

ชุดข้อมูลการช่วยเหลือสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

 “รวมใจไทยหนึ่งเดียว”

ประจำวันที่ 28 สิงหาคม 2568

โดย กองส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ภาครัฐ กรมประชาสัมพันธ์

“วราวุธ” ออกมาตรการช่วยลูกบ้านการเคหะ พื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา พักชำระหนี้-เว้นค่าเช่า

(26 ส.ค. 68) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ห่วงใยพี่น้อง
กลุ่มเปราะบางและประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ความไม่สงบส่งผลต่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบางและประชาชน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้มีความมั่นคงในการดำรงชีวิต จึงได้ออกมาตรการเร่งด่วนในการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ตราด จันทบุรี และสระแก้ว ด้วยการให้ความช่วยเหลือหลัก 3 ด้าน ได้แก่

1. ยกเว้นค่าเช่า สำหรับค่าเช่ารายย่อย และ เช่าจัดประโยชน์ สำหรับลูกค้า กคช. ฟรีค่าเช่า 3 เดือน โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2568 ยกเว้นค่าปรับ 100% กรณีผู้ที่มาชำระหนี้ค้างในช่วงเวลาดังกล่าว 

2. พักชำระหนี้กลุ่มเช่าซื้อ สำหรับลูกค้าเช่าซื้ออาคารของ กคช. ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะได้รับสิทธิพักชำระค่าเช่าซื้อ 3 เดือน โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2568 ยกเว้นค่าปรับ 100% กรณีผู้ที่มาชำระหนี้ค้างในช่วงเวลาดังกล่าว

3. สนับสนุนการยังชีพ โดยจัดเตรียมถุงยังชีพเพื่อให้การช่วยเหลือ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

    1) ลูกค้าที่พักอาศัยในโครงการของ กคช. ในพื้นที่ชายแดน

    2) กลุ่มเปราะบางที่อยู่ในโครงการของ กคช.

    3) ผู้ที่อพยพเข้ามาพักอาศัยกับญาติในโครงการของ กคช. เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบ

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวสะท้อนถึงภารกิจของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กระทรวง พม.ในการยืนเคียงข้างพี่น้องกลุ่มเปราะบางและประชาชนในทุก ๆ สถานการณ์โดยเฉพาะช่วงเวลาวิกฤติ เพื่อให้ทุกคนมีความมั่นคง
ในการอยู่อาศัย และได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง

ครม. อนุมัติงบกลาง 1,700 ล้าน สร้างหลุมหลบภัย หอกระจายข่าว เยียวยาผู้อพยพ 7 จังหวัดชายแดนกัมพูชา ครัวเรือนละ 2,000-5,000 บาท

(26 ส.ค. 68 ) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงภาพรวมการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การปะทะระหว่างไทยและกัมพูชาในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ว่า ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีข้อสั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การอนุมัติขยายวงเงินทดรองจ่ายภายใต้อำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการอพยพ การบริหารจัดการศูนย์พักพิงผู้อพยพ ซ่อมแซมหลุมหลบภัย และส่งคนกลับบ้าน ขณะนี้มียอดเบิกจ่ายแล้ว รวม 198,418,791 บาท และข้อสั่งการเพิ่มเติม เพื่อบรรเทาปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติใน 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่

1. อนุมัติเงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สูงสุด 10 ล้านบาท จากงบกลางและกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี

2. งดเว้นการเรียกเก็บ ค่าน้ำ-ค่าไฟ เป็นเวลา 2 เดือน ระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2568

3. ระดมความช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย จากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ

4. เบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงอาสาปฏิบัติงาน หรือ ชรบ. ที่ช่วยลาดตระเวนระหว่างช่วงอพยพ ในอัตรา 120-240 บาท/วัน ผ่านเงินทดลองจ่ายในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้มีการอนุมัติการช่วยเหลือเพิ่มเติมในอีก 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่

1. เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการกระทำของกองกำลังภายนอกประเทศ ที่อนุมัติการจ่ายรายครัวเรือน ครัวเรือนละ 2,000 บาท สำหรับการอพยพไม่เกิน 7 วัน และครัวเรือนละ 5,000 บาท เป็นเงินสด ผ่านระบบพร้อมเพย์ (prompt-pay) สำหรับการอพยพตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป โดยใช้งบประมาณจาก งบกลาง เป็นเงิน 1,516 ล้านบาท

2. งบประมาณสำหรับสร้างบังเกอร์และหลุมหลบภัย 779 แห่ง และงบประมาณ ซ่อม/สร้าง หอกระจายข่าว 221 แห่ง ในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา 7 จังหวัด สำหรับเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยใช้งบประมาณจาก งบกลาง เป็นเงิน 194 ล้านบาท

รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนกว่า 4,000 หมู่บ้านใน 7 จังหวัดกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และเร่งรัดการช่วยเหลือให้ถึงมือพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง