(1 ก.ย. 68) นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 1,000 ชุด และเชิญสิ่งของพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน 116 ชุด พร้อมทั้งเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่มีต่อประชาชนผู้ประสบอุทกภัย บ้านปางอุ๋ง หมู่ที่ 1 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ณ โรงเรียนบ้านปางอุ๋ง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประชุมทีม Situation Awareness Team (SAT) ติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากพายุ “หนองฟ้า” พร้อมกำชับทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือในช่วงถัดไป โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เสริมคันกั้นน้ำ และเร่งสร้างแนวป้องกันในจุดเสี่ยง โดยขอให้จังหวัดต่าง ๆ เฝ้าระวังต่อเนื่องและแจ้งเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด
สำหรับพื้นที่ที่ยังประสบอุทกภัย ปภ. ได้เน้นย้ำให้เร่งช่วยเหลือประชาชนโดยจัดส่งถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม พร้อมจัดทีมแพทย์ดูแลสุขภาพและสุขอนามัยในศูนย์พักพิงอย่างเหมาะสม ป้องกันการระบาดของโรค พร้อมตรวจสอบและใช้จ่ายเงินทดรองราชการอย่างรัดกุม หากวงเงินไม่เพียงพอ ให้เร่งขอขยายวงเงินผ่าน ปภ. และยังได้สั่งการให้ศูนย์ ปภ. เขต ตรวจสอบความพร้อมของกำลังพล เครื่องจักร และจัดทีมผลัดเปลี่ยน เพื่อสนับสนุนภารกิจของจังหวัดอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ข้อมูล วันที่ 1 กันยายน 2568 ปภ. สนับสนุนเจ้าหน้าที่แล้วกว่า 57 คน พร้อมเครื่องจักรกล 103 รายการ จากศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง และเขต 16 ชัยนาท รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จำนวน 1 ลำ เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและทั่วถึง
ด้านแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมสนับสนุนมาตรการดูแลศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปอย่างถูกสุขลักษณะและปลอดภัย ได้แก่ การสำรวจ ประเมินความเสี่ยงการปนเปื้อนเชื้อโรคในอาหารและน้ำดื่มน้ำใช้ การจัดการสุขาภิบาลอาหารและน้ำ การจัดการขยะ การจัดการส้วมและสิ่งปฏิกูล การควบคุมสัตว์แมลงนำโรค เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้น และสนับสนุนด้านการส่งเสริมสุขภาพการประเมินความเสี่ยงของกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยง พร้อมทั้งสนับสนุนสิ่งของเพื่อการจัดการด้านสุขาภิบาลและดูแลสุขภาพ เช่น คลอรีน น้ำยาฆ่าเชื้อ ชุดปรับปรุงคุณภาพน้ำ หน้ากากอนามัย ชุดแปรงฟัน และชุดอุปกรณ์เสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก โดยสั่งการให้ทีมรองรับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข SEhRT (Special Environmental health Response Team) ลงพื้นที่ช่วยเหลือ โดยศูนย์อนามัยที่ 2 พิษณุโลก ลงพื้นที่สุโขทัยดูแลศูนย์พักพิง 2 แห่ง ได้แก่ ศาลาการเปรียญวัดคูหาสุวรรณ เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี และวัดบางคลอง ต.ปากแคว จ.สุโขทัย ขณะที่ศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มใน อ.แม่แจ่ม ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น และทีมสาธารณสุขเชียงใหม่ประเมินดูแลกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงอย่างใกล้ชิด
จังหวัดเชียงใหม่ นายอิสรา เจริญชาศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เปิดเผยว่า นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ อส. จากส่วนกลางและจังหวัดต่าง ๆ 19 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนกว่า 500 นาย เข้ามาช่วยสนับสนุนให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะนี้ อส. เร่งปฏิบัติการให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านปางอุ๋ง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นมีพื้นที่การเกษตรและสิ่งสาธารณะประโยชน์ได้รับความเสียหายใน 4 ตำบล 15 หมู่บ้าน 769 ครัวเรือน 2,786 ราย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างต่อเนื่องและคลี่คลายโดยเร็ว เช่น การช่วยค้นหาผู้สูญหาย การเคลื่อนย้ายต้นไม้กิ่งไม้ รื้อถอนเศษซากอาคารและบ้านเรือนที่เสียหายออกจากพื้นที่ สนับสนุนการดูแลผู้ประสบภัยและอำนวยความสะดวกที่ศูนย์ช่วยเหลือประชาชน เจ้าหน้าที่ อส. ทั้งหมดจะอยู่ประจำการไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่บ้านผาบ่อง ต.ผาบ่อง อ.เมือง ติดตามการดำเนินงานและสั่งการเร่งด่วนในการพัฒนาพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก เพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ ลดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและสร้างความมั่นใจว่าพื้นที่สามารถกลับมาใช้ประโยชน์ได้โดยเร็วที่สุด โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท กองกำลังนเรศวร ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ บ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง ทำความสะอาดอาคารโรงเรียนบ้านห้วยปูแกง (น้ำเพียงดิน) หลังได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก เมื่อ 27 สิงหาคม 2568 เพื่อฟื้นฟูและทำให้การเรียนการสอนกลับคืนสู่ภาวะปกติ
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมจัดทีมจากศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix It Center) เข้าไปตรวจสอบระบบไฟฟ้า ซ่อมแซมอุปกรณ์การเรียน และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้โรงเรียนสามารถกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว และเร่งฟื้นฟูโรงเรียนบ้านน้ำเพียงดิน เน้นย้ำ เด็กจะต้องได้กลับมาเรียนเร็วที่สุด
โครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ร่วมกับส่วนราชการ ทหาร และประชาชนจิตอาสา ลงพื้นที่เร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูและทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากผลกระทบพายุ “คาจิกิ” ณ โรงเรียนบ้านน้ำเพียงดิน ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อให้โรงเรียนสามารถกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติโดยเร็ว
จังหวัดสุโขทัย นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยที่พื้นที่จังหวัดเริ่มคลี่คลาย หลังระดับน้ำแม่น้ำยมเริ่มลดลงต่ำกว่าค่าวิกฤติ ระดับน้ำหน้าจวนผู้ว่าฯ อยู่ที่ 6.05 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง 2.1 ม. อัตราการไหล 249.7 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มลดลง แต่ยังมีน้ำท่วมขังในชุมชนซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำอีกหลายจุด จึงสั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุโขทัย เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมทำความสะอาด เก็บและซ่อมแซมแนวกระสอบทราย รวมถึงสำรวจจุดเสี่ยงริมแม่น้ำทุกจุดที่มีน้ำผุดลอดและน้ำล้น เพื่อปรับปรุงซ่อมแซม เตรียมรับสถานการณ์ในระยะต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก ส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าพื้นที่ จ.สุโขทัย เพื่อเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จำนวน 4 จุด
จุดที่ 1 สนับสนุนรถดับเพลิงพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 1 คัน เพื่อสูบน้ำในพื้นที่ชุมชนบางแก้ว เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี อ.เมืองสุโขทัย และสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนจำนวน 300 ครัวเรือน
จุดที่ 2 สนับสนุนรถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อสูบน้ำในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.คลองมะพลับ อ.ศรีนคร ทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนจำนวน 39 ครัวเรือน
จุดที่ 3 สนับสนุนรถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 2 คัน สูบน้ำในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.หนองบัว อ.ศรีนคร โดยสูบน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรจำนวน 1,000 ไร่
จุดที่ 4 สนับสนุนรถสูบน้ำกู้ภัยเคลื่อนที่สมรรถนะสูง แบบโมบายยูนิต พร้อมอุปกรณ์สูบน้ำในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ และสูบน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร จำนวน 1,700 ไร่
จังหวัดพิษณุโลก ฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นในคลองวัดตายมได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่หมู่ที่ 2, 5 และ 6 รวมถึงบริเวณตลาดวัดตายม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยผ่านระบบ Cell Broadcast อย่างครอบคลุม โดยเฉพาะใน อ.เนินมะปราง อ.นครไทย และ อ.วังทอง รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ ปภ. ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประเมินความเสียหาย รวมถึงวางแผนการฟื้นฟูหลังน้ำลด ทั้งด้านที่อยู่อาศัย การเกษตร และระบบสาธารณูปโภค ให้หน่วยงานระดับอำเภอ ท้องถิ่น ประสานงานร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิดในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน จัดวางแนวกระสอบทราย ติดตั้งธงแดงเตือนภัย จัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น เรือท้องแบน
ชุดกู้ภัย และจุดพักพิงสำหรับประชาชนที่ต้องอพยพ
จังหวัดเพชรบูรณ์ นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสัก พร้อมด้วย สมาชิก อส. กองร้อย อส. อำเภอหล่มสักที่ 4 ร่วมลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์อุทกภัย ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ประชาชน และเตือนให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.หล่มสัก ในแต่ละพื้นที่ยังมีระดับน้ำท่วมสูง ซึ่งทางอำเภอได้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งให้เร่งสำรวจผู้ได้รับผลกระทบ จัดตั้งศูนย์อพยพผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ต.ท่าอิบุญ ต.ห้วยไร่ และ ต.สักหลง ทั้งนี้ อ.หล่มสัก ยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทันท่วงที และลดผลกระทบจากอุทกภัยให้ได้มากที่สุด
มณฑลทหารบกที่ 36 จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดกำลังพลช่วยเหลือประชาชน จำนวน 38 นาย เข้าพื้นที่ประสบอุทกภัยในเขตอำเภอหล่มสัก เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย นำประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง นำส่งกระสอบทรายเพื่อทำแนวกั้นน้ำชั่วคราว แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จากสถานการณ์มวลน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในพื้นที่อำเภอหล่มสัก ทั้งนี้ หน่วยได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างสุดความสามารถ
จังหวัดอุตรดิตถ์ ผลกระทบจากพายุหนองฟ้าในพื้นที่ อ.ทองแสนขัน ระดับน้ำส่วนใหญ่ได้ลดลงแล้ว พล.ต.สุชาติ พุ่มสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 35 (มทบ.35) ได้จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน มทบ.35 ลงพื้นที่ฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน และรถครัวสนามลงพื้นที่ประกอบอาหาร ร่วมกับเทศบาลตำบลทองแสนขัน ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่
จังหวัดขอนแก่น พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ทุกหน่วยทหารในกองทัพบก ระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนตามการร้องขอโดยทันที โดยกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 ร่วมกับจิตอาสาและหน่วยงานใน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เร่งทำแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำจากลำน้ำเชิญ หลังฝนตกหนักทำให้บ้านวังเจริญ ต.ห้วยม่วงกว่า 112 หลัง ได้รับผลกระทบ ทหารและเจ้าหน้าที่ช่วยขนย้ายสิ่งของ วางกระสอบทราย ทำความสะอาดบ้านเรือน และจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมยืนยันว่ากองทัพบกจะยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์วิกฤต