กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง มีความขุ่นผิดปกติ ด้วยการจุดตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อตรวจวัดคุณภาพน้ำและตะกอนดิน ในแม่น้ำกก 15 จุด และลำน้ำสาขาที่ไหลลงแม่น้ำกก แม่น้ำลาว แม่น้ำกรณ์ แม่น้ำสรวย แม่น้ำสาย 3 จุด แม่น้ำโขง 3 จุด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย และได้กำหนดแผนการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมในปีงบประมาณ 2568 เริ่มจากเดือนมีนาคมถึงเดือนกันยายน 2568 โดยจะเก็บตัวอย่างน้ำเดือนละ 2 ครั้ง และเก็บตัวอย่างตะกอนดินเดือนละ 1 ครั้ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน 2568 ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำตามมาตรฐานคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน
จากการเก็บตัวอย่างคุณภาพน้ำ ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 4 – 8 สิงหาคมที่ผ่านมา พบความขุ่นในแม่น้ำกกมีค่าลดลง การปนเปื้อนของสารหนูไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด ยกเว้นช่วงบริเวณก่อนฝายเชียงรายและหลังฝายเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย คาดว่ามาจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยและที่ติดต่อกับเมียนมา เนื่องจากเกิดพายุวิภาจนมีน้ำล้นตลิ่งและการแจ้งเตือนอพยพในฝั่งประเทศไทยหลายครั้ง อาจเป็นสาเหตุทำให้แหล่งกำเนิดจากต้นทางหยุดดำเนินการชั่วคราว จึงไม่พบการปนเปื้อนของโลหะหนักบริเวณแม่น้ำกก ยกเว้นบริเวณฝายเชียงรายที่มีการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัย จึงอาจมีการกวนตะกอนทำให้สารหนูที่สะสมเดิมฟุ้งกระจายและสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อย ส่วนการปนเปื้อนในแม่น้ำสายช่วงที่ไหลเข้าประเทศไทย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบสารหนูและตะกั่วสูงเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดต่อเนื่องและจะค่อยๆลดลงบริเวณแม่น้ำรวก ข้อสังเกตในช่วงเวลาดังกล่าวแม่น้ำสายมีปริมาณน้ำมาก ล้นตลิ่งและพนังกั้นน้ำเสียหายเนื่องจากพายุหลายจุด
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ มีแผนตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อเปรียบเทียบผลการตรวจวัด คุณภาพน้ำและใช้เป็นข้อมูลประกอบการในการแก้ปัญหาในแม่น้ำและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการนำน้ำไปใช้ประโยชน์ของประชาชน