ชุดข้อมูลการช่วยเหลือสถานการณ์ไทย-กัมพูชา“รวมใจไทยหนึ่งเดียว”ดูแลผู้ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

ชุดข้อมูลการช่วยเหลือสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

 “รวมใจไทยหนึ่งเดียว”

ประจำวันที่ 6 กันยายน 2568

โดย กองส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ภาครัฐ กรมประชาสัมพันธ์

รัฐบาลยืนยันดูแลผู้ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งรัดเบิกจ่ายเงินเยียวยาให้เร็วที่สุด

(5 ก.ย. 68) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในการแถลงข่าวศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า รัฐบาลขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า แม้จะอยู่ในช่วงรอยต่อทางการเมือง การดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและไม่สะดุด โดยทุกกระทรวง ได้ร่วมบูรณาการทำงานอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดสรรงบประมาณสำหรับเยียวยาผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ เพื่อให้การช่วยเหลือครอบคลุมและทั่วถึงที่สุด

รัฐบาลขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการเบิกจ่ายงบประมาณเยียวยา ให้เร่งรัดกระบวนการจัดสรรเงินช่วยเหลือให้ถึงมือผู้มีสิทธิ์โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้การช่วยเหลือเกิดความล่าช้า หรือสะดุดกลางทาง โดยถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด นอกจากนี้ รัฐบาลยังย้ำถึงความมั่นใจแก่ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม แรงงาน และนักลงทุน ว่ากลไกการทำงานของรัฐยังคงดำเนินไปตามปกติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง โดยไม่มีการหยุดชะงัก

มทภ.2 นำครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา รับมอบเงินช่วยเหลือจาก GULF รวม 17 ล้านบาท

(5 ก.ย. 68) พล.ท.บุญสิน พลาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เข้ารับมอบเงินสนับสนุนช่วยเหลือ จากบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF นำโดย นายสิตมน รัตนาวะดี ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มอบเงินช่วยเหลือ ครอบครัวละ 1 ล้านบาท รวม 17 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้มาจาก “กองทุน 100 ล้านบาท” ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

นอกจากนี้ ยังช่วยเหลือในภารกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งการมอบถุงยังชีพ “GULF Care” จำนวนกว่า 2,000 ชุด แก่ทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบในศูนย์พักพิงตามจังหวัดต่างๆ และร่วมกับบริษัทในเครือ เพื่อนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและดาวเทียมมาช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง