ชุดข้อมูลการช่วยเหลือสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
“รวมใจไทยหนึ่งเดียว”
ประจำวันที่ 7 กันยายน 2568
โดย กองส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ภาครัฐ กรมประชาสัมพันธ์
ปภ. ให้ความช่วยเหลือ เยียวยาผู้ประสบภัย กรณีเสียชีวิต และบาดเจ็บ 90 ล้านบาท
(6 ก.ย. 68) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลสั่งการทุกภาคส่วนบูรณาการความร่วมมือเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบพร้อมดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนในพื้นที่ 7 จังหวัด ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้ประสบภัย จำนวน 90,466,022.57 บาท แบ่งเป็น กรณีเสียชีวิตจ่ายเงินจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ครอบครัวและทายาทผู้เสียชีวิตแล้ว รวม 17 ราย รวมเป็นเงิน 88,108,658.57 บาท กรณีบาดเจ็บจ่ายเงินให้ผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว 2,357,364 บาท นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ใช้จ่ายเงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดรวม 201,371,391 บาท แบ่งออกเป็นเงินเชิงป้องกันยับยั้ง จำนวน 2,952,600 บาท และเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 198,418,791 บาท
ในส่วนของการช่วยเหลือความเสียหายบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ สถานที่เอกชน ปศุสัตว์ ประมง พืช และสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับผลกระทบ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ดำเนินการสำรวจความเสียหาย ในเบื้องต้นแล้ว โดยข้อมูล ณ วันที่ 5 ก.ย. 68 จำนวนบ้านเรือนได้รับความเสียหายในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี รวมทั้งสิ้น 888 หลัง รวมเป็นเงิน 18,047,481 บาท แยกเป็น เสียหายทั้งหลัง จำนวน 41 หลัง เป็นเงิน 11,651,752 บาท เสียหายมาก จำนวน 73 หลัง เป็นเงิน 2,974,109 บาท เสียหายน้อย จำนวน 771 หลัง เป็นเงิน 3,421,620 บาท ซึ่งในภาพรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการซ่อมแซมบ้านเรือน/ที่อยู่อาศัยประจำไปแล้ว จำนวน 759 หลัง ยังคงเหลืออยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม จำนวน 129 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จคิดเป็น 85.47%)
รัฐบาล บูรณาการทุกส่วนราชการเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน 7 จังหวัดชายแดนในทุกๆ ด้าน พร้อมติดตามการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ในส่วนของการซ่อมแซมบ้าน รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมและฟื้นฟูบ้านเรือนที่เสียหายให้แล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถกลับมาใช้ชีวิตในบ้านของตัวเองได้อย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด