พท.แถลงยินดี “อนุทิน” นั่งนายกฯ พร้อมเดินหน้าตรวจสอบการทำงาน เขากระโดง ฮั้วเลือก สว.

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวแสดงความยินดีกับรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ได้รับเลือกเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร พร้อมระบุว่าแม้พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่พร้อมเดินหน้าทำงานในฐานะฝ่ายค้าน ภายใต้หลักการระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาและพร้อมทำงานตั้งแต่วินาทีแรกหลังรัฐบาลชุดใหม่เข้าทำงานและจะเน้นที่ประเด็นใหญ่ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยดำเนินการมาโดยตลอดการดำเนินคดีการบุกรุกที่ดินเขากระโดงและการตรวจสอบดำเนินคดีการฮั้วเลือก สว. ซึ่งสังคมให้ความสำคัญและจับตามองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ โดยพรรคเพื่อไทยจะตรวจสอบจับตาทุกฝีก้าว เพราะรัฐบาลชุดใหม่จะดำเนินการ 2 เรื่องนี้อย่างไร และหากพบว่ามีความพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมโดยเข้าไปยุ่งเกี่ยวพยานหลักฐาน หรือทำให้คดีล่าช้าพรรคเพื่อไทยก็จะใช้ทุกช่องทางในการตรวจสอบที่มีอยู่เพื่อหยุดยั้งการกระทำดังกล่าวเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและธำรงไว้ซึ่งประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา รวมถึงพรรคเพื่อไทยจะร่วมเข้าชื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีทันทีแม้จะยังไม่ครบ 4 เดือนตามบันทึกข้อตกลงส้ม-น้ำเงินก็ตาม 

“ดิฉันต้องขอบอกเลยว่าความยุติธรรมต้องไม่ถูกซื้อ ความจริงต้องไม่ถูกปกปิดและอำนาจต้องถูกตรวจสอบค่ะแม้ว่ารัฐบาลภูมิใจไทยจะมาตามระบบรัฐสภาก็ตามผ่านการตัดสินใจยกมือของพรรคประชาชน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขอันพิสดารเช่นนี้ ย่อมยากที่จะคาดหวังถึงความสำเร็จในการบริหารประเทศภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทย”  

นางสาวขัตติยา ยังมองว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทยที่มีเงื่อนไขพิสดาร เรื่องที่คาดหวังยากในการบริหารประเทศให้ประสบความสำเร็จ และพรรคประชาชน ในฐานะเป็นคะแนนเสียงหลักในการจัดตั้งรัฐบาล จะปฏิเสธความรับผิดชอบทางการเมืองไม่ได้ 

ส่วนหลายฝ่ายก็มองว่าการตั้งรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีความแตกต่างกันอย่างไรในปี 2566 นั้น มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับ 2 เคยยกมือสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 2 ครั้ง และพรรคประชาชนได้ส่งไม้ต่อให้กับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองแรกที่ปฏิเสธร่วมรัฐบาลพรรคก้าวไกล ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งแตกต่างจากที่พรรคประชาชนยกมือสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำและเป็นการจัดตั้งรัฐบาลอนุรักษ์นิยมที่ทรงพลังเท่าที่เคยมีมา ซึ่งเมื่อการตั้งหากไม่รวมกับรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร หากจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ พรรคประชาชนจะต้องเป็นองค์ประชุมให้กับพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นสิ่งผิดปกติของการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แม้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนจะเชิญชวนให้พรรคเพื่อไทยร่วมทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยเป็นฝ่ายค้านที่อ่อนแอ ดังนั้นจึงอยากให้พรรคประชาชนทบทวนการเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็งอีกครั้งว่าควรทำหน้าที่เป็นผู้ประคองรัฐบาลหรือผู้คานอำนาจ ตรวจสอบรัฐบาลและขอเรียกร้องให้พรรคประชาชนทำหน้าที่ร่วมตรวจสอบรัฐบาลอย่างจริงจังเพื่อสร้างมาตรฐานการเมืองที่โปร่งใส 

“เราอยากเห็นพรรคประชาชน ซึ่งวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนเลยว่าจะเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว หรือว่าจะเป็นฝ่ายค้านครึ่งบกครึ่งน้ำ ซึ่งจะได้ร่วมตรวจสอบรัฐบาลอย่างจริงจังเพื่อสร้างมาตรฐานการเมืองที่โปร่งใส”  

ส่วนการที่นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ที่ระบุว่าสนับสนุนนายอนุทินเพื่อผ่าทางตันและไม่ต้องการให้เสนอชื่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นางสาวขัตติยา ขอให้พรรคประชาชนเลิกสร้างจินตนาการ เลิกสร้างทางตันเทียมมาเป็นข้ออ้าง เพราะไม่เคยมีอยู่ในสมการของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากพรรคยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งการตั้งแคนดิเดต 3 คน เพื่อรองรับกลไกรัฐธรรมนูญ 2560 และป้องกันให้เกิดทางตัน ดังนั้นยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยยังมีความแข็งแรงและพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มกำลังเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ ประชาชน โดยจะไม่ยอมให้กระบวนการประชาธิปไตยถูกบิดเบือน จะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษามาตรฐานการเมืองที่โปร่งใส รัฐบาลจะเปลี่ยนขั้วแต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเปลี่ยนใจ เพราะยืนข้างประชาชน 

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศ ก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของคนในพรรคหรือไม่ นางสาวขัตติยา ยืนยันว่าทุกคนกำลังใจดีและนายทักษิณก็โพสต์ว่าจะกลับมา ดังนั้นจึงไม่กระทบกระเทือนกับขวัญและกำลังใจของ สส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ขณะนี้ทุกคนเตรียมพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน จึงต้องวางยุทธศาสตร์และมองไปข้างหน้า ส่วนอีก 4 เดือนจะยุบสภา เป็นสิ่งที่กรรมการบริหารจะต้องพูดคุยกันในการวางตัวบุคคลและยุทธศาสตร์การทำงานการเมือง พรรคเพื่อไทยผ่านมาเยอะ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่กับพรรคเพื่อไทย

ขณะ สส.บางส่วนโหวตให้นายอนุทิน ที่ถูกมองว่าเหมือนเลือดไหล นางสาวขัตติยา ระบุว่า สส. 8 คนที่โหวต ไม่ได้แปลกใจ เป็นสิ่งที่คาดเดาได้อยู่แล้ว หลังจากนี้ให้ สส. ที่เหลือทำหน้าที่ในการเป็น สส.ฝ่ายค้าน 

ส่วนโฉมหน้าของ ครม.ขณะนี้เป็นแค่โผ ต้องรอให้เปิดตัวอย่างเป็นทางการก่อนค่อยมาพูดว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะหาคนที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง