นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์วิทยากรเศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยของรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้เงื่อนไขบริหารประเทศภายใน 4 เดือน ว่า แม้ว่ารัฐบาลใหม่จะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่มีอายุเพียง 4-6 เดือน แต่ทุกคนก็รู้ว่าปลายทางคือ การเลือกตั้งใหม่ ทำให้นักลงทุนบางรายรอดูสถานการณ์ อย่างไม่มั่นใจเต็มที่
ดังนั้น การลงทุนในระยะยาวอาจไม่โดดเด่นมาก แต่การลงทุนระยะสั้นเพื่อรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจฟื้นก็จะทำให้เกิดความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย การมีรัฐบาลเฉพาะกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่า จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ง่าย การเลือกคนที่ใช่ หรือคนที่มีความสามารถเป็นที่ถูกใจประชาชนและนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งการที่รัฐบาลมีรัฐมนตรีคนนอกที่เป็นคนที่ได้รับการยอมรับว่ามีความรู้ความสามารถทำงานได้ทันที สามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างดี พลิกฟื้นเศรษฐกิจได้
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า หากรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเป็นไปตามที่มีกระแสข่าวเชื่อว่า ทุกคนจะยอมรับ หน่วยความเชื่อมั่นกลับมาส่วนหนึ่ง ก็จะอยู่ที่ฝีมือของรัฐบาลว่าภายใน 4 – 6 เดือน จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งสิ่งสำคัญที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการ 2 เรื่องคือ ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและทำตามสัญญาทางการเมืองคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามกรอบที่ให้สัญญาไว้กับพรรคประชาชน การเมืองจะนิ่ง นโยบายสำคัญๆ ของรัฐบาลจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภา ฝ่ายค้านและพรรคประชาชนก็ทำหน้าที่ตรวจสอบและสนับสนุน เพราะเข้าสู่กลไกสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญตามกรอบที่สัญญาไว้
ทั้งนี้ แม้รัฐบาลเสียงข้างน้อยสามารถทำงานได้เต็มที่ การกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะทำได้เต็มที่ สิ่งสำคัญคือ นโยบายการคลัง ที่อาจจะนำโครงการคนละครึ่งกลับมา ขอเป็นโครงการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อทั่วประเทศได้เร็วและเกิดผลจริง ดึงดูดความมั่นใจนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน
ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศ รักษาตลาด หรือขยายตลาดต่างประเทศ เพื่อเสริมการส่งออก ใช้งบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านกระทรวงมหาดไทย ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทำให้เกิดการจ้างงานทั่วประเทศ อาศัยนโยบายการคลังผสมผสานกับการเงิน คือ การให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจผ่านกระทรวงการคลังปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รหัสภาษาพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ย หรืออาจมีเงื่อนไขผ่อนปรนที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อได้
ดังนั้นไตรมาสที่ 4 ที่รัฐบาลจะเริ่มทำงานในเดือนตุลาคม หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ก็สามารถใช้นโยบายการคลัง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เลยและสามารถใช้นโยบายผสมผสานทำให้เศรษฐกิจเริ่มมีเม็ดเงินไหลเวียนขึ้น สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ เพื่อให้มาลงทุนกล้าเข้ามาลงทุนมากขึ้น มือถือเวลาที่จะต้องยุบสภา หากความเข้มแข็งไม่ไตรมาสที่ 4 ไตรมาสที่ 1 รัฐบาลรักษาการก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ก็สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้