นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ครั้งที่ 4/2568 ที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธาน ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดส่ง (ร่าง) เอกสารขอรับการประเมินขั้นต้น (Preliminary Assessment) แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม พระธาตุพนม กลุ่มสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์และภูมิทัศน์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกฉบับสมบูรณ์ จากองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม พระธาตุพนม กลุ่มสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ และภูมิทัศน์ที่เกี่ยวข้อง ได้รับการบรรจุไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลกแล้วเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 และได้รับการรับรองในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญในปีเดียวกัน
โดยเกณฑ์คุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากลที่นําเสนอ 3 ข้อ ประกอบด้วย การเป็นตัวแทนที่แสดงถึงผลงานชิ้นเอกที่ทำขึ้นด้วยอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์ของมนุษย์ โดยพระธาตุพนมมีอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์ทางศิลปกรรมที่มีลักษณะเป็นศิลปะไทยอีสาน – ลาวล้านช้าง และบูรณะในแนวทางที่รักษาอัตลักษณ์นี้มาเป็นระยะๆ จนถึงปี 2518 เมื่อพระธาตุพนมได้ถูกลมมรสุมพังทลาย กรมศิลปากร ได้ดำเนินการบูรณะขึ้นใหม่ให้สวยงามตามแบบเดิม
การส่งอิทธิพลให้เกิดการพัฒนาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวนและภูมิทัศน์ และศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง ที่แสดงถึงการแลกเปลี่ยนคุณค่าและความเชื่อและวัฒนธรรมของประชาชนในเรื่องการเคารพบูชาสถูปของบุคคลที่มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่แพร่ขยายมาจากอินเดียและฮินดูจนถึงสมัยพุทธกาล และเป็นประเพณีวัฒนธรรมของชาวพุทธและได้แพร่มาสู่ตะวันออกเฉียงใต้หรือที่เรียกว่าสุวรรณภูมิ และสุดท้าย ความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์หรือบุคคลที่มีความสำคัญหรือความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์ ซึ่งพระธาตุพนมมีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดจนถึงปัจจุบัน