กรมการค้าภายใน หรือ ดีไอที ( DIT ) เดินหน้าจัดกิจกรรม “รณรงค์บริโภคเนื้อโคไทย” เน้นสร้างการรับรู้ ถึงคุณภาพและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเนื้อโคไทย โดยจัดภายใต้คอนเซปต์ “รักแรก รสเนื้อไทย”เชื่อมโยงเนื้อโคคุณภาพจากเกษตรกร 8 กลุ่ม ได้แก่ สหกรณ์โคเนื้อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KU Beef) จังหวัดนครปฐม เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อล้านนาเชียงราย (Lanna Beef)จังหวัดเชียงราย วิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงโคเนื้อลำตะคอง (NVK Beef) จังหวัดนครราชสีมา เครือข่ายผู้เลี้ยงโคเนื้อจังหวัดบุรีรัมย์ (Smile Beef) สหกรณ์โคขุนดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา วิสาหกิจชุมชนโคขุนสุรินทร์โกเบครบวงจร จังหวัดสุรินทร์ สหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ จำกัด (Max Beef) จังหวัดนครปฐม และแอนดา ฟาร์มมา พืชชิ่ง (Pitching)นำเสนอคุณสมบัติจุดเด่นของเนื้อวัวและมีเชฟ มาปรุงเนื้อให้กับผู้ซื้อได้ชิม ในส่วนของผู้ซื้อนั้นมีทั้งกลุ่มร้านจำหน่ายเนื้อ สายการบิน กลุ่มโรงแรมและกลุ่มร้านอาหารภัตตาคาร กลุ่มห้างค้าส่งค้าปลีก กลุ่มจัดจำหน่ายวัตถุดิบอาหารและโรงเรียนสอนทำอาหาร เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดและยกระดับภาพลักษณ์ของเนื้อโคไทยให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น
นางสาวญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน บอกถึงสถานการณ์ราคาเนื้อวัวเป็นหน้าฟาร์ม ที่ยังทรงตัวในระดับต่ำเฉลี่ย 65-70 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากก่อนหน้านี้ประสบปัญหาการส่งออก ผ่านประเทศเพื่อนบ้านชะลอตัว ทำให้มีสต็อกในประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งต้นทุนการผลิตที่ 70-80 บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับขนาดและพันธุ์ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร จึงได้จัดกิจกรรม “รณรงค์บริโภคเนื้อโคไทย”มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดบูธ ที่ห้างสรรพสินค้า รถ Food Truck ถือว่าได้รับการตอบรับและสร้างการรับรู้ถึงรสชาติเนื้อวัวไทยจากผู้ซื้อ ติดต่อสั่งซื้อ เนื้อจากเกษตรกรต่อเนื่อง
นายอรรควัฒน์ วิริยะขจรเกียรติ ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงโคเนื้อลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา ย้ำว่า ที่ผ่านมาถูกเนื้อวัวนำเข้าจากต่างประเทศมาแย่งตลาดไปจำนวนมาก รวมทั้งต้นทุนสูง ครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างการรับรู้ถึงเนื้อวัวไทย รสชาติไม่แพ้เนื้อวัวจากต่างประเทศ เพราะจุดเด่นของอาหารสัตว์ ที่ใช้ธัญพืชในการเลี้ยง ทำให้มีคุณภาพดีกว่าการเลี้ยงด้วยทุ่งหญ้าของต่างประเทศ และเกษตรกรจะอยู่รอด
