ดร.พิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาวิชาการ เรื่อง บทบาทของไทยและองค์การสหประชาชาติในการส่งเสริมพันธกิจด้านการศึกษา (The Roles of Thailand and the United Nations in Promoting Educational Mission) ณ โรงแรมรอยัลปริ๊นเซสหลานหลวง กรุงเทพฯ
วันนี้ ศธ.ร่วมกับภาคีเครือข่ายประเทศไทย ในการพัฒนาการศึกษาเพื่อสร้างสันติภาพและสร้างความเจริญก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี การก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (United Nations) หรือ UN โดยมีองค์กรที่เป็นเครือข่ายสำคัญคือยูเนสโก ที่ได้ส่งเสริมการศึกษาเรื่องวิทยาศาสตร์ และยูนิเซฟที่ส่งเสริมเรื่องอาหารเพื่อเด็ก ซึ่งเราเป็นกระทรวงหนึ่งที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสานพันธกิจสำคัญด้านการศึกษา ให้โอกาสกับเด็กที่จะเติบโตเป็นพลเมืองสำคัญของไทยการจัดการศึกษาจะนำมาซึ่งความสงบในจิตใจของเด็กเหล่านั้น ให้ตระหนักในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และมีอาชีพที่เหมาะสม เป็นพลเมืองของโลกที่มีคุณภาพ
องค์การสหประชาชาติได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนไว้ โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 4 คือการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่ง ศธ. ได้แสดงบทบาทและโดดเด่นด้านการศึกษา ดำเนินการหลายเรื่องร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เด็กได้เรียนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทั้งการแก้ปัญหา Zero Dropout ต้องไม่มีตกหล่น ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การปรับปรุงหลักสูตร การให้ทุนการศึกษา ไปจนถึงประเทศเด็กจากเพื่อนบ้านเราก็ดูแลอย่างดี ถือเป็นเจตจำนงแน่วแน่ที่ให้การศึกษานำมาซึ่งความสันติภาพ ความสงบสุข และความเจริญก้าวหน้า ผู้เรียนค้นพบตัวเอง มีอาชีพที่ตัวเองชอบ มีรายได้ ก็จะนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อยในสังคมความเจริญก้าวหน้า
ที่ผ่านมา ศธ.ได้ร่วมมือทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อสร้างสันติภาพผ่านกระบวนการการศึกษา ปลูกฝังความเป็นพลเมืองที่ดีที่ปรากฏอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอน ทำให้สังคมไทยเจริญก้าวหน้า มีความสงบสุข สอดคล้องตามเจตจำนงขององค์การสหประชาชาติ ขอขอบคุณความร่วมมือจากครู อาจารย์ ผู้บริหารในวงการการศึกษาและทุกภาคส่วน ที่ได้ช่วยกันจัดการการศึกษาตามเจตนาของการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ 80 ปี เฉลิมฉลองวาระสำคัญ เพื่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก สร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนระหว่างองค์การสหประชาชาติและรัฐบาลไทย
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวาระการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ 8 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันในการจัดตั้งองค์การสหประชาชาติ องค์การระหว่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความสงบสุขและความมั่นคง โดยใช้รูปแบบเดิมของสันนิบาตชาติ (League of Nations) ที่เคยมีในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2461 นับแต่นั้นมา ประเทศใหญ่น้อยรวมถึงประเทศไทยได้ร่วมกันสานต่อพันธกรณีพื้นฐานด้านสันติภาพและความมั่นคงของนานาประเทศ โดยลงนามในกฎบัตรสหประชาชาติ ปี พ.ศ. 2488 ซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิกในลำดับที่ 55
กระทรวงศึกษาธิการได้ปฏิบัติหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (Secretariat of the Thai National Commission for UNESCO) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2492 4 ปีภายหลังการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ เพื่อความเป็นเลิศด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และการศึกษาเชิงสังคมและมนุษยศาสตร์ในการส่งเสริมสิทธิของเด็ก
นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟและหน่วยงานอื่นของสหประชาชาติในประเทศไทย ผ่านกรอบความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (United Nations Sustainable Development Cooperation Framework: UNSDCF) โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและยูนิเซฟ เป็นต้น ในการดำเนินความพยายามด้านมนุษยธรรมเพื่อให้เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 25 ปี ได้รับบริการด้านการศึกษา สุขภาพ และโอกาสการพัฒนาทางสังคมอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ภายใต้กรอบกฎหมายและนโยบายที่ประเทศไทยให้การรับรอง
ทั้งนี้ ภายในงานมีการสัมมนาเรื่อง “บทบาทของไทยและองค์การสหประชาชาติในการส่งเสริมพันธกิจด้านการศึกษา” ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนด้านการพัฒนาทักษะทางการศึกษา กิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นแสงนำทางให้ทุกท่านบรรลุวัตถุประสงค์ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนฉบับปัจจุบัน รวมถึงวางแนวทางในอนาคตเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติภายในปี พ.ศ. 2573 ในประเทศไทย พร้อมทั้งระบุถึงอุปสรรคที่ยังคงอยู่ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานนั้น โดยคุณ Jenelle Babb ผู้แทนจากยูเนสโก กรุงเทพฯ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับการสนับสนุนขององค์การสหประชาชาติด้านการพัฒนาสังคมและความยั่งยืน เพื่อเน้นย้ำถึงเส้นทางความร่วมมืออันยาวนานกว่า 8 ทศวรรษระหว่างประเทศไทยและหน่วยงานของสหประชาชาติ