นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่ รมช.คลัง พร้อมคณะฯเดินทางมายังสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อหารือกับนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานสภาหอการค้าไทย และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายพจน์ กล่าวเปิดการหารือว่า สภาหอการค้าฯขอแสดงความยินดี ที่นายกรัฐมนตรีได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เข้ามาบริหารบ้านเมืองและเดินหน้าต่อเนื่องไปอย่างไม่หยุดชะงัก และขอชื่นชมแสดงความยินดีล่วงหน้ากับว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจทุกคน ซึ่งมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับของประชาชน ซึ่งหลังจากนี้สภาหอการค้าก็จะเดินทางไปพบที่กระทรวง
หอการค้าไทยเป็นองค์การภาคเอกชนที่ไม่มีผลประโยชน์ ก่อตั้งมาถึง 92 ปีเต็ม หอการค้าไทยวางนโยบายขับเคลื่อนในส่วนของภาคเอกชน โดยข้อเสนอแนะทั้งหมดได้รวบรวมจากเครือข่ายหอการค้าไทยทั่วประเทศและภาคจังหวัด ซึ่งมีทั้งหมด 7 ด้าน ประกอบด้วย 1.เสริมสร้างความเชื่อมั่นประเทศและนักลงทุน 2.เพิ่มสภาพคล่องและการเข้าถึงแหล่งเงินทุน 3.ลดภาระค่าครองชีพและต้นทุนประชาชน 4.ส่งเสริมการค้าการลงทุนและโลจิสติกส์ค้าขายเป็นธรรม 5.รักษาความปลอดภัยและเสถียรภาพทางสังคม โดยเฉพาะชายแดน 6.เตรียมแผนรับมือความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ และ7.กระตุ้นกำลังซื้อและการท่องเที่ยว
ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จริงๆ ทุกท่านในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าแปลกตา สำหรับตนมีความคุ้นเคย เคารพนับถือกันมาเป็นอย่างดี ที่ตนได้มาในวันนี้ เพื่อมาพบกับพวกท่าน โดยนำว่าที่คณะรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจมาให้พวกท่านได้รู้จัก ซึ่งตนมั่นใจว่า พวกท่านทั้งหลายรู้จักกันดีอยู่แล้ว และมาวันนี้ เพื่อตั้งใจมารับฟังรายละเอียดหารือรับข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย
ทั้งนี้ รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ เป็นรัฐบาลที่เราเน้นเรื่องการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ต้องกระชับและเข้มแข็งภายในระยะเวลาที่มีอยู่ โอกาสนี้นายอนุทินยังได้แนะนำว่าที่รัฐมนตรี โดยกล่าวว่า ตอนนี้รัฐมนตรีซึ่งทูลเกล้าทูลกระหม่อมรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ มา จะเร่งทำการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาและสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้