พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มวลชนกัมพูชาชุมนุมประท้วงขัดขวางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย วางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา โดยมองว่าฝั่งกัมพูชา วางแนวทางการปฏิบัติเพื่อต้องการใช้ภาพการสื่อสารไปสู่ต่างประเทศ รวมทั้งการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นการรุกล้ำอธิปไตยไทยอย่างชัดเจน และมีท่าทีที่ก้าวร้าวหวังยั่วยุให้ไทยตอบโต้ด้วยความรุนแรง แต่ฝ่ายไทยใช้ความอดทนอดกลั้น มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเป็นผู้ดำเนินการ
ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ หรือเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่จะต้องจัดทำหลักเขตแดนให้ชัดเจน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้รับบาดเจ็บหลายราย ส่งผลให้ต้องใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาเพื่อควบคุมสถานการณ์ ยืนยันเป็นการดำเนินการตามหลักสากล ไม่ได้ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุตามที่ฝ่ายกัมพูชานำเสนอข่าวสาร
ที่ผ่านมาไทยได้หารือผ่านการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา พร้อมแจ้งเตือนแล้วหลายครั้ง แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน ย้ำว่า ต่อจากนี้ หากกัมพูชาละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงมีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และมีการชุมนุมที่รุนแรง จะยกระดับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยจะดำเนินการจับกุมทันที
โฆษกกองทัพบก ยังกล่าวว่า ในช่วงของสถานการณ์ชายแดนมีความตรึงเครียด กัมพูชามักเผยแพร่ข่าวปลอม หรือเฟคนิวส์ เพื่อทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทย จึงขอให้คนไทยใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลและติดตามข่าวสารจากงานหน่วยราชการ พร้อมขอความร่วมมือให้ช่วยกันเผยแพร่ข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ
