นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จากกรณีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้มวลน้ำเขื่อนห้วยขอนแก่นเพิ่มสูง ประกอบกับเกิดเหตุพนังกั้นน้ำแม่น้ำป่าสักได้รับความเสียหายหลายจุด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่เทศบาลหล่มสัก ว่า ได้รับรายงานจากกองสาธารณสุขฉุกเฉินว่าช่วงเวลาประมาณ 12.10 น. พนังกั้นน้ำเทศบาลเมืองหล่มสักบริเวณถนนคนเดินความยาวประมาณ 12 เมตรแตกทลาย ทำให้น้ำทะลักเข้าพื้นที่เศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกับ อบจ.เพชรบูรณ์ได้เร่งให้การช่วยเหลือประชาชน
เบื้องต้นมีการหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้าในเขตเทศบาลพื้นที่อำเภอหล่มสัก และมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 ตำบลคือ ตำบลวัดป่า 2 หมู่บ้าน ตำบลตาลเดี่ยว 11 หมู่บ้าน ตำบลหล่มสัก 11 ชุมชน และตำบลบ้านโสก 5 หมู่บ้าน คาดการณ์ว่าโดยรวมน้ำจะลดภายใน 3-4 วัน โดยประชาชนในเขตเทศบาลได้รับการแจ้งเตือนและเตรียมพร้อมยกของขึ้นที่สูง เตรียมสำรองอาหารไว้แล้ว ขณะที่สถานบริการสาธารณสุขจำนวน 32 แห่ง ยังไม่ได้รับผลกระทบ
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้กำชับให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามแผนการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว และสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหล่มสักได้จัดทีมปฐมพยาบาลเบื้องต้นประจำศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่โรงเจศาลเจ้าพ่อกกไทร พร้อมประสานหน่วยงานเข้าให้การช่วยเหลือประชาชน ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ โดยจะย้ายไปรักษาหรือพักอาศัยที่โรงพยาบาลหล่มสัก ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านอาคารสถานที่ อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ และทีมแพทย์พยาบาล รวมถึงทีม MCATT เบื้องต้นได้เข้าช่วยเหลือเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 14 ราย รวมถึงเตรียมสนับสนุนยารักษาโรค ยารักษาโรคน้ำกัดเท้าเชื้อรา และรองเท้านินจาตามการร้องขอของพื้นที่แล้ว