ผบ.ทร.ประเมิน ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ยืดเยื้อถึงปีหน้า เหตุ 2 ประเทศยังไม่บรรลุข้อตกลง

พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงการส่งต่อหน้าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ ในโอกาสที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการ ว่ามี 4 – 5 เรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการปกป้องอธิปไตยของไทย ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จึงต้องมีการส่งมอบอย่างละเอียด เช่น การวางแผนติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง เช่น การตรึงกำลังในพื้นที่ การผลัดเปลี่ยนกำลังเพื่อลดความเหนื่อยล้าของกำลังพล การจัดหายุทโธปกรณ์เพื่อรองรับภัยคุกคาม หากในปีหน้าสถานการณ์พัฒนาไปสู่ระดับที่เกิดความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง 

ผู้บัญชาการทหารเรือ ยอมรับว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชามีแนวโน้มลากยาวไปถึงปีหน้า เพราะมองว่า การเจรจาระหว่างสองฝ่ายยังล่าช้า แนวโน้มความขัดแย้งจะยืดเยื้อต่อไป แต่ถ้าสามารถบรรลุข้อตกลงตามที่ไทยต้องการได้ ความขัดแย้งก็จะยุติได้เร็ว สิ่งสำคัญคือจะต้องหาจุดลงตัว ที่ประชาชนของทั้งสองฝ่ายสามารถยอมรับ เช่น ต้องใช้คนกลางหรือไม่ แต่ถ้าคุยกันสองฝ่ายแล้วตกลงกันได้ก็ควรยุติตรงนี้

สำหรับการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย – กัมพูชา ในพื้นที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) นั้น ขึ้นอยู่กับว่าข้อเสนอของแต่ละฝ่ายได้รับการตอบรับมากน้อยเพียงใด เพื่อให้หน่วยเหนือรับทราบและวางมาตรการดำเนินการเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย

ผู้บัญชาการทหารเรือ ยอมรับว่า ยังคาใจเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังแก้ปัญหาไม่แล้วเสร็จ แต่เกษียณไปเสียก่อนและเชื่อทุกคนก็คาใจด้วย แต่ทุกเรื่องมีกระบวนการและขั้นตอนในการดำเนินงาน หากเราต้องการข้อตกลงที่นำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ก็ต้องเกิดจากความเห็นชอบร่วมกันทั้งสองฝ่าย

พร้อมย้ำว่า การเมืองกับการทหารจะต้องเดินไปด้วยกัน รัฐบาลต้องกำหนดทิศทางอย่างชัดเจนให้ทหารดำเนินการ เนื่องจากสิ่งที่ทหารคิดและทำ จะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศ เพราะเครื่องมือทางทหารเป็นเครื่องมือสุดท้ายที่ประเทศควรจะใช้ เรายังมีเครื่องมืออื่นๆ ที่สามารถบีบกัมพูชาได้อีกมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง การหาข้อยุติความขัดแย้งด้วยวิถีทางอื่น จึงเป็นเรื่องที่ดี นอกจากนี้การนำเครื่องมือทางทหารมาใช้ ยังอาจนำไปสู่การเปิดช่องให้ประเทศอื่นๆ ใช้โอกาสแทรกแซง เราจึงควรใช้เครื่องมือต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอดี เพื่อสร้างความได้เปรียบในการเจรจาต่อรองในขั้นต่อไป โดยยืนยันว่า การดำเนินการเหล่านี้ จะอยู่ภายใต้หลักการที่รัฐบาลนำการทหาร ซึ่งเป็นหลักการที่ทุกประเทศใช้ในการบริหาร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง