อนุรักษ์ พัฒนา แม่น้ำ คู คลอง เสริมสร้างจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วนเห็นคุณค่าและความสำคัญ

นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดกิจกรรม “ทส.รวมใจ อนุรักษ์แม่น้ำ คู คลอง” เนื่องในสัปดาห์วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ ตรงกับวันที่ 20 กันยายนของทุกปี ณ วัดลาดปลาเค้า เขตลาดพร้าว  กรุงเทพมหานคร จัดโดย กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) เพื่อรณรงค์และเสริมสร้างจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วนเกิดความตระหนัก เห็นคุณค่าและความสำคัญของแม่น้ำ คู คลอง และเข้ามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองในพื้นที่ของตัวเอง พร้อมกล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญต่อนโยบายการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของการใช้ประโยชน์และการดูแลรักษาคุณภาพน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ และได้บรรจุไว้ในแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ หรือแผน NAP ในสาขาการจัดการทรัพยากรน้ำ โดยหน่วยงานภาครัฐมีหน้าที่กำหนดนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการบริหารจัดการน้ำ ส่วนของชุมชนนำแผนไปปฏิบัติตามบริบทของตัวเอง เช่น ธนาคารน้ำใต้ดิน แก้มลิงชุมชน การสร้างเครือข่ายอนุรักษ์น้ำ โดยเน้นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้เกิดการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ทสม. และภาคีเครือข่าย มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ใช้ประโยชน์จากน้ำ และเป็นกำลังสำคัญดูแลรักษาแหล่งน้ำในชุมชนของตัวเอง รวมถึง การเป็นกระบอกเสียงสื่อสารและสร้างการรับรู้สู่ชุมชน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ด้านนายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) กล่าวว่า “น้ำ” เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในหลายมิติ ทั้งด้านการพัฒนาประเทศ การคมนาคมขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ รวมถึง มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของทุกคนที่ต้องใช้น้ำสำหรับการอุปโภค – บริโภค ดังนั้น หากแหล่งน้ำเน่าเสีย จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและวิถีชีวิต แล้วยังเป็นแหล่งหนึ่งในการก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก สาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง