นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ ถึงท่าอากาศยานสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ เพื่อปฏิบัติภารกิจลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ รวมถึงติดตามตามการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
จุดแรกที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี มีพลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 และพลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ต้อนรับ ซึ่งทันทีที่นายกรัฐมนตรี นำคณะถวายราชสักการะพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก่อนจะถ่ายภาพร่วมกัน
จากนั้นได้เข้าร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ โดยมีแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รายงานสถานการณ์ว่า ขอบคุณที่นายกฯ มาตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งทางศูนย์ปฏิบัติการตามแนวความคิดรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน ตามพันธกิจ 5 ประการ เพื่อสร้างความมั่นคงและสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยตามแนวชายแดน ซึ่งยังคงมีเงื่อนไขที่สำคัญ
ด้านลาว ปัญหาที่สำคัญคือ ปัญหาสันดอนในแม่น้ำโขง ที่เกิดจากสนธิสัญญาที่มีมาในอดีตและปัญหายาเสพติด มีผลการจับกุมยาบ้า ไอซ์ในปริมาณความผิดที่สูงขึ้น
ด้านกัมพูชามีปัญหาสำคัญคือ ปัญหาแนวชายแดน ปัญหาเรื่องเขตแดน และการลักลอบตัดไม้ ได้มอบให้กองกำลังสุรนารีรับผิดชอบ 5 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยมีแนวทางปฏิบัติที่สำคัญคือ ปัญหาเส้นเขตแดนในห้วงที่ผ่านมา เกิดปัญหาความขัดแย้งจนถึงการใช้กำลังทหาร ส่งผลให้เกิดความสูญเสียแก่กำลังทหารและประชาชน ตั้งแต่วันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 2568 ได้มีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย
ขณะที่หน่วยในพื้นที่ปัจจุบัน ได้วางกำลังควบคุมระยะสำคัญ ที่จะได้เปรียบทางยุทธวิธี จัดตั้งจุดศูนย์กลางเพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจ ทั้งกำลังพลและเครื่องมือ ปรับปรุงที่มั่นดัดแปลงให้แข็งแรง รวมถึงเส้นทางที่มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปรับปรับปรุงแผนเผชิญเหตุให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการจัดการเหตุการณ์การดำเนินการ และการยุทธ์ ให้มีความพร้อมในการเผชิญสถานการณ์เพื่อปฏิบัติได้ตามแผนที่กำหนด อีกทั้งกำกับดูแลเรื่องสวัสดิการกำลังพลทุกระดับ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจ เพื่อให้ปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้อุดมการณ์ของกองทัพบกเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และประชาชน
สุดท้ายนายกรัฐมนตรี ลงนามในสมุดเยี่ยมของกองบัญชากองกำลังสุรนารีว่า “ขอเป็นกำลังใจและขออำนวยพรให้พี่น้องทหารปฏิบัติภารกิจรักษาอธิปไตยของชาติทุกคน จงประสบชัยชนะและแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ด้วยความเคารพและขอบพระคุณยิ่ง” จากนั้นมอบเสบียง ได้แก่ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่ไก่ ปลากระป๋อง น้ำมันพืช ขนม และกระดาษชำระ ให้แก่กองกำลังสุรนารี เพื่อนำไปมอบให้กับทหารแนวหน้าในพื้นที่ชายแดน การลงพื้นที่วันนี้ของนายอนุทิน ถือว่าเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้สวมเครื่องแบบกองอาสารักษาดินแดน ติดยศนายกองใหญ่ เทียบเท่ายศพลเอก ซึ่งเป็นยศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย