ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานส่วนท้องถิ่นและเกษตรกร เข้าร่วม ณ โรงเรียนมัธยมด่านขุนทด ตำบลด่านขุนทด อำเภอด่านขุนทด และโรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม ตำบลห้วยแถลง อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา มักประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งได้รับผลกระทบทุกปี ส่งผลให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกัน พื้นที่ต้นน้ำลำตะคองกลับประสบปัญหาภัยแล้งในฤดูร้อน โคราชเป็นหัวใจของอีสาน ถ้าโคราชไม่เจริญ อีก 19 จังหวัดในภาคอีสานก็ยากจะพัฒนาได้ โคราชเปรียบเสมือนประตูสู่อีสาน หากเปรียบบ้านคือประเทศไทย โคราชคือรั้วหน้าบ้าน ที่สะท้อนความมั่นคงของภูมิภาค ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง จึงต้องได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการน้ำ และการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลที่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุก โดยท่านได้มอบหมายให้ตนกำกับดูแล 4 กระทรวงหลัก รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงท่องเที่ยว และกระทรวงพัฒนาความมั่งคงของมนุษย์ ซึ่งมีความสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกระดับ ตนขอให้ข้าราชการทุกกรมถือว่าการสั่งการในครั้งนี้เป็นคำสั่งของเจ้ากระทรวงโดยตรง เพราะปัญหาของเกษตรกรเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงการรับฟังแล้วผ่านไป
สำหรับปัญหาใหญ่ของภาคเกษตรไทย ร้อยเอก ธรรมนัส ระบุว่า ขณะนี้เกษตรกรจำนวนมากต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นทุกปี แต่ราคาผลผลิตกลับไม่ขยับตาม เนื่องจากปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง น้ำมันและไฟฟ้า อยู่ในมือของกลุ่มทุนรายใหญ่ ทำให้เกษตรกรตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและขาดความสามารถในการแข่งขัน ทุกปีประเทศไทยผลิตข้าวได้ประมาณ 30 ล้านตัน ส่งออกได้ราว 10 ล้านตัน อีก 7 – 8 ล้านตัน เป็นการบริโภคในประเทศ ที่เหลือกว่า 13 ล้านตัน กลายเป็นสต๊อกล้นตลาด ราคาข้าวจึงตกต่ำ พ่อค้าคนกลางกดราคา ชาวนาจึงขาดทุนซ้ำซาก
ทางออกของปัญหานี้คือ กระทรวงเกษตรฯ จะใช้ศักยภาพของสหกรณ์ทั่วประเทศเป็นฐานสำคัญ โดยสั่งให้เร่งจัดตั้งโครงการผลิตปุ๋ยในระบบสหกรณ์ เพื่อจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด เพื่อลดการพึ่งพากลุ่มทุน และลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรโดยตรง
ร้อยเอก ธรรมนัส ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งลูกหนี้ภาคเกษตร แต่จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ ผ่านกลไกของสหกรณ์ทั่วประเทศ วันนี้ลูกหนี้เกษตรกรไม่ได้ขออะไรมาก เขาแค่อยากมีโอกาสตั้งตัว ตนจะดำเนินการให้เกษตรกรชำระหนี้ 50% ส่วนที่เหลือภาครัฐจะเข้ามาช่วยรับภาระ รัฐบาลของท่านอนุทินจะไม่ทอดทิ้งใคร ทั้งนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส ได้กำชับให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งจัดทำระเบียบแนวทางรองรับ เพื่อใช้รูปแบบคล้ายกองทุนฟื้นฟูหนี้สหกรณ์ ให้เกิดผลในทางปฏิบัติจริง ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีการประชุมกำหนดทิศทางที่ชัดเจนในวันพฤหัสบดีที่ 9 ต.ค.นี้
ส่วนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ได้สั่งการให้เร่งเดินหน้าโครงการผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มาสู่ลำตะคอง โดยใช้ระบบท่อใต้ดินและท่อลอย เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพื้นที่เกษตร และเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งให้ชาวโคราช ซึ่งโครงการนี้จะช่วยให้โคราชมีน้ำใช้ตลอดปี ทั้งเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่สำรวจและจะนำงบประมาณโครงการนี้บรรจุในงบปี 2570 ต่อไป