นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในเวทีสาธารณะด้านหลักนิติธรรม ครั้งที่ 3 หัวข้อ “หลักนิติธรรม วาระแห่งชาติเพื่อความสามารถในการแข่งขันของไทย” ณ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ว่า เวทีนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมของชาติได้มาร่วมกันมองอนาคตและขับเคลื่อนให้หลักนิติธรรมเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นพื้นฐานของความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้จริงในอนาคตอันใกล้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ใช่นักกฎหมาย แต่เชื่อในเรื่อง Rule of law หลายๆ ท่าน เคยทำงานด้วยกัน ถ้ามีคนอธิบายได้ในเรื่องของกฎหมาย ก็จะเชื่อในสิ่งนั้น ถูกใส่ความคิดมาว่า ต้องเป็นคนยึดถือและเชื่อมั่นในกฎหมาย และได้ยึดถือแนวคิดนี้มาโดยตลอด ความคิดนี้ทำให้อยู่รอดได้และประสบความสำเร็จพอสมควร ในกิจกรรมต่างๆ ที่ทำ ไม่ว่าจะในสมัยยังประกอบธุรกิจ จนมารับใช้บ้านเมืองในฐานะนักการเมือง และเป็นรัฐมนตรีที่ต้องมาบริหารราชการแผ่นดิน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พื้นหลังเป็นวิศวกร นั่นคือการวางรากฐานที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารโครงสร้างต่างๆ ที่ถนัด หรือการก่อตั้งองค์กรใดใดหรือการพัฒนาใดใดตนจะความสำคัญของเรื่องรากฐานที่มั่นคงก่อนเสมอ และในความเป็นวิศวกรนั้น เชื่อว่าหลักความยุติธรรม เป็นเสมือนเสาเข็มที่สำคัญของทุกสังคม เพราะพวกเราทุกคน นอกจากจะต้องมีปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตในแต่ละวันแล้วเราต้องมีกฎหมายเป็นที่พึ่งและกฎหมายต้องอำนวยความยุติธรรมให้กับทุกคน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความที่ได้มีโอกาสไปศึกษาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สิ่งที่ติดหัวมาโดยตลอดคือ มีคำว่า jutice for all คือ สำหรับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะบางคน อยากให้มีการบัญญัติศัพท์เช่นนี้ในรัฐธรรมนูญด้วยก็ได้ ที่ทุกคนอ่านแล้วเข้าใจ และต้องเชื่อมั่นกฎหมายต่างๆ ไม่ใช่อ่านแล้วเข้าใจหมด แต่ไม่รู้เชื่อมั่นได้หรือไม่ เพราะบางคนตัดสินอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้ามีอำนาจหรือไม่มีอำนาจ ก็จะโดนแบบนี้ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ดีเท่าตน หรือพวกตนก็ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่คนกลัวว่าพวกตนจะมาใช้อำนาจในการที่จะเป็น Justice for some จะเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ขอยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้และปล่อยให้กลไกยุติธรรมดำเนินไปตามครรลองที่ควรจะเป็น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มนุษย์ทุกคนต้องการความเป็นธรรม และถ้าองค์กรใดมีความไม่เป็นธรรมก็จะมีการแสดงออกหลายอย่าง และเมื่อความเป็นธรรมไม่เกิด ก็จะเกิดการจลาจลขึ้นมา ดังนั้นเรื่องหลักนิติธรรมเป็นเรื่องตั้งแต่ในบ้าน ตั้งแต่เกิดจนเจริญเติบโต ทำงานเข้าสู่สังคมและอยู่ในการบริหารประเทศ ถ้าไม่มีความเป็นธรรมเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ผลลัพธ์ก็คือความจราจลความวุ่นวาย ความยุ่งเหยิง ซึ่งสุดท้ายก็ไม่มีใครชนะ ถ้าไม่ยุติธรรมก็จะเกิดความพ่ายแพ้ ซึ่งไม่มีประเทศใดที่ต้องการสิ่งเหล่านี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความเป็นธรรมก็คือรากฐานความเป็นปกติสุขของสังคมมนุษย์ ไม่มีประเทศใดในโลกจะแข่งขันได้อย่างยั่งยืน หากขาดหลักนิติธรรมที่มั่นคงการสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแรงต้องอาศัยกฎหมายที่มีความมั่นคงแน่นอนและคาดเดาได้ นักลงทุนที่เราต้องการชักชวนเข้ามาต้องมีความไว้วางใจและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและสังคมที่สงบสุขที่ตั้งอยู่บนความเชื่อมั่นว่ากฎหมายทั้งหลายในประเทศนั้นนั้นจะถูกใช้เพื่อความเป็นธรรม หลักนิติธรรมสำหรับตนนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของกฎหมาย แต่คือเรื่องของวัฒนธรรมแห่งความเป็นธรรม ที่จะต้องปลูกฝังให้ดีอยู่ในทุกสังคมเพื่อให้เรามีสังคมที่เป็นธรรมและมีระบบที่ทุกคนเชื่อมั่นและยึดถือและคนที่ใช้กฎหมายนั้นยืนหยัดอยู่บนความถูกต้องทุกประการ ประเทศไทยของเรากำลังเผชิญความท้าทายทางภัยความมั่นคง ซึ่งใครอยากทราบสามารถติดตามตนได้ทุกสัปดาห์ เพราะความมั่นคงของเราดูเหมือนจบเมื่อไหร่ก็ชนะ แสนยานุภาพดีกว่า แต่การบริหารสถานการณ์ก็สำคัญ เพราะอาจทำให้เกิดความไม่แข็งแรง หรืออ่อนแอ ฉะนั้นต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในความพร้อมทุกอย่างของเรา
เรื่องของความเหลื่อมล้ำกัน ขาดเสถียรภาพทางการเมืองและ ปัญหากลไก การปกครองเรื่องความปลอดภัย สแกมเมอร์ ยาเสพติดกำลังคุกคามประเทศ หน่วยงานของรัฐเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องรักษาและยึดหลักนิติธรรมอย่างเข้มแข็งต้องมีความกล้าหาญที่จะบังคับกฎหมาย โดยความถูกต้องเที่ยงธรรม ไม่ถูกครอบงำและชักจูงให้ใช้กระบวนการยุติธรรมมาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง หรือกลั่นแกล้งบุคคลใดที่คิดว่าเป็นปฏิปักษ์กับตนเอง อย่างนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ยุติธรรมเพื่อทุกคน จึงต้องหาคำบัญญัติ เพราะใครก็ช่วยใครไม่ได้ และใครจะทำให้คนนั้นผิดก็ไม่ได้ ถ้าเขาถูก เมืองไทยต้องไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราจะได้อาศัยอยู่ในประเทศที่มีหลักกฎหมายคุ้มครองได้อย่างเต็มที่ คนจะทำดีจะได้ไม่ต้องเกรงกลัว สิ่งที่อันตรายคือคนเก่ง คนดี ไม่กล้าทำสิ่งที่ดี เพื่อส่วนรวม เพราะเกรงกลัวกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมไปทำอันตรายเขา ทำเขาไม่ได้ ก็ไปทำคนใกล้ชิดเขา สิ่งเหล่านี้กำลังเกิดอยู่ ดังนั้นเรามีหน้าที่ที่จะต้องตัดให้สิ้นซาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การคอร์รัปชัน อย่างที่หลายหลายคนเข้าใจเพื่อประโยชน์เอาสตางค์มาได้ผลประโยชน์ตอบแทน คิดเป็นมูลค่าทางการเงิน แค่นั้นมันไม่ใช่ อันนี้หนักกว่าคอร์รัปชัน พอยึดครองได้หมดทุกอย่าง คือที่สุดของความเลวร้าย จะให้เกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการแถลงนโยบายให้ความสำคัญเรื่องการรักษาหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด เรื่องการกระทำของเจ้าพนักงานของรัฐในกรณีการใช้กฎหมายหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐไปเพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือการละเว้นการบังคับใช้กฎหมายในการดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติด บ่อนการพนัน อาชญากรรมข้ามชาติไทย ไซเบอร์การหลอกลวงประชาชนนั้นเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรงและต้องดำเนินการทางอย่างเด็ดขาด รวมทั้งการขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดและจริงจังเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชนและนานาชาติ บทเรียนจากทั่วโลกชี้ตรงกันว่าหากหลักนิติธรรมหมอแนบประเทศนั้นจะไม่สามารถรักษาความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจได้นักลงทุนหนีหาย ในอีกทางหนึ่งพูดได้ว่า “หลักนิติธรรม คือต้นทุนสำหรับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยในวันนี้ เรากำลังอยู่ในเส้นทางของการพยายามเข้าร่วมเป็นสมาชิก Organization for Economic Cooperation and Development (OECD) ซึ่งอย่างที่เราทราบกัน การจะเป็นประเทศสมาชิกใน OECD ได้ จะต้องมีความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ธรรมาภิบาล และหลักนิติธรรม