นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการหารือร่วมกับ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติและ นพ.ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เรื่องการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ เพื่อคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ โดย กทม. มุ่งให้ความสำคัญการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคของประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ กทม. ได้รับรางวัล “เมืองสุขภาพดี” จากสำนักงานองค์การอนามัยโลกภาคพื้นเอเชียใต้และตะวันออก (SEARO) เมื่อเดือน ตุลาคม 2567 ซึ่งมีตัวชี้วัดเรื่องการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ
ด้าน ศ.นพ ประกิต กล่าวว่า ควันบุหรี่เป็นมลพิษที่อันตรายต่อสุขภาพที่สำคัญสุดในอาคาร ซึ่งทั่วโลกได้ออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ เพื่อปกป้องและคุ้มครองสิทธิที่จะมีสุขภาพดีของคนที่ไม่สูบบุหรี่ ในหลายเมือง เช่น ฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน , เมืองดาเวา และเมืองอิโลอิโล ฟิลิปปินส์ มีการจัดตั้งหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเป็นการเฉพาะ
ขณะที่ไทย แม้มีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะตั้งแต่ปี 2535 แต่การบังคับใช้กฎหมายยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่มีสถานที่สาธารณะที่หลากหลายจำนวนมากและมีคนสูบบุหรี่ถึง 1.2 ล้านคน ยังไม่นับนักท่องเที่ยวเฉพาะปี 2567 ที่มีถึง 32.4 ล้านคน ในจำนวนนี้ มี 1 ใน 5 คนเป็นคนสูบบุหรี่
ที่ประชุมมีมติว่า กทม. จะเชิญทีมนายกเทศมนตรีเมืองอิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์และทีมงาน มาแบ่งปันประสบการณ์ในการออกเทศบัญญัติจัดตั้งหน่วยงาน พร้อมอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 20 คน เพื่อบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะและกฎหมายควบคุมยาสูบอื่น โดยเมืองอิโลอิโลมีประชากรเกือบ 5 แสนคน ทั้งนี้ เมื่อปี 2552 ผมได้เคยพาคณะจากสำนักงานควบคุมยาสูบ กรมควบคุมโรค และเจ้าหน้าที่ กทม. ไปดูงานที่เมืองดาเวา ฟิลิปปินส์ ที่มีนายโรดริโก โรอา ดูเตอร์เต เป็นนายกเทศมนตรี ซึ่งต่อมาในปี 2559 นายดูเตอร์เต ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
ศ.นพ ประกิต กล่าวเพิ่มเติมว่า อนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกมาตรา 8 ว่าด้วยการปกป้องจากควันบุหรี่ระบุว่า “ควันบุหรี่มือสองเป็นสารก่อมะเร็ง ไม่มีระดับที่ปลอดภัยจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง” และ “การที่จะบรรลุสิทธิที่จะมีชีวิตและสิทธิที่จะบรรลุมาตรฐานสุขภาพที่ดีที่สุด เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” ประเทศสมาชิกมีพันธะผูกพันที่ต้องทำให้มั่นใจได้ว่าจะคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากอันตรายของควันบุหรี่มือสองในที่สาธารณะ ที่ทำงาน ยานพาหนะ และสถานที่อื่นๆ โดยไม่มีข้อยกเว้น