กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดประชุมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น โดยมี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดการประชุมและมอบนโยบายสำคัญด้านการพัฒนาอาชีวศึกษา ภายใต้แนวคิด “เรียนดี มีคุณธรรม” และ”การพัฒนาอาชีวศึกษาไทยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในยุค VUCA World”
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า หลายคนเมื่อพูดถึงอาชีวะ มักจะนึกถึงเด็กช่างกล เด็กเทคนิค แต่จริงๆ แล้ว อาชีวะมีสายวิชาชีพที่หลากหลายมาก ทั้งสายซอฟต์สกิล เช่น วิชาชีพทางสิ่งทอ การตัดเย็บ อาหาร การโรงแรมและอีกมากมาย ซึ่งยังไม่ค่อยได้รับการประชาสัมพันธ์เท่าที่ควร เมื่อสักครู่ก็ได้เห็นน้องๆ อาชีวศึกษาที่ร่วมมือกับกรมที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมธนารักษ์ จัดโครงการผลิตและพัฒนากำลังคนคุณภาพสูง เพื่อให้ส่วนราชการมีกำลังคนคุณภาพที่พร้อมปฏิบัติงานได้ทันทีเมื่อบรรจุเข้ารับราชการ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีมาก โดยวานนี้มอบไปแล้วว่า ควรเปิดโอกาสให้วิทยาลัยเอกชนเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย เพราะเขาก็คือ ลูกหลานของเราเหมือนกัน เพียงแต่เรียนอยู่ในสถาบันเอกชน หากเปิดให้เข้าร่วม ก็จะเป็นโอกาสให้ได้บรรจุเป็นข้าราชการเช่นกันและหน่วยราชการก็จะได้บุคลากรรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ
ขณะนี้ ส.ป.ก.มีตำแหน่งว่างจำนวนมาก โดยเฉพาะสายงาน “ช่างสำรวจ”ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการเร่งออกโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตรในอดีต เมื่อครั้งตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงถือเป็นโอกาสทองของอาชีวศึกษาในการผลิตคนตรงสาขา เพื่อรองรับความต้องการของประเทศ
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อถึงประเด็นสำคัญที่รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาทุกฝ่ายเห็นพ้องกันคือ ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา โดยระบบการศึกษาไม่จำเป็นต้องเป็นสายสามัญเท่านั้น ทาง สอศ. และ สกร. สามารถเป็นแกนหลักในการค้นหาและตามเด็กๆ กลับเข้ามาสู่ระบบได้ ซึ่งการเรียนสายอาชีวะกับการเรียนรู้ของ สกร. เป็นทางอีกทางเลือกที่จะเรียนแล้วมีงานทำแน่ๆ ไม่ใช่เรียนเพื่อให้ได้วุฒิการศึกษาเท่านั้น จึงได้ฝากให้เลขาธิการ กอศ.และอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ดำเนินการในเรื่องติดตามเด็กที่หลุดออกจากระบบกลับมาให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล ได้กล่าวถึงข้อเสนอจากอาชีวะเอกชนเรื่อง สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับภาคเอกชนที่ให้ทุนการศึกษา ซึ่งสิทธิดังกล่าวสิ้นสุดไปตั้งแต่ปี 2567 โดยยืนยันว่า จะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้ฟื้นสิทธินี้กลับมา เพราะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายและภาคเอกชนได้ลดหย่อนภาษี นักศึกษาได้ทุนเรียน ตลาดแรงงานได้คนตรงสาขา วันนี้ขอบคุณผู้บริหารอาชีวศึกษาทุกท่าน โดยเฉพาะผู้ที่สะท้อนปัญหาในพื้นที่ เช่น เรื่องอัตรากำลัง ทรัพยากรและเครื่องมือฝึกที่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งตนจะเร่งผลักดันให้ทุกวิทยาลัยมีความพร้อมเต็มที่ในการพัฒนาผู้เรียน