นายกฯ ปาฐกถาพิเศษ “ธรรมาภิบาลทางการแพทย์กับการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน” พร้อมสนับสนุนไทยเป็น “health hub of the world”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ธรรมาภิบาลทางการแพทย์กับการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน” ในการสัมมนาวิชาการแพทยสภาและสถาบันมหิตลาธิเบศร 2568 พร้อมพิธีมอบเกียรติบัตร เข็มเกียรติคุณ และโล่เกียรติคุณ แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 11 (ปธพ.11) และ หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นำทางการแพทย์ รุ่นที่ 2 (ปนพ.2) ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ 

โดยมี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมทั้งศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ พลอากาศเอก นายแพทย์อิทธิพร คณะเจริญ ผู้อำนวยการสถาบันมหิตลาธิเบศร ศาสตราจารย์เกียรติคุณสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา พร้อมทั้งคณะกรรมการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ คณะกรรมการแพทยสภา คณะกรรมการสถาบันมหิตลาธิเบศร นักศึกษา ปธพ. รุ่น 1-12 และ นักศึกษา ปนพ. รุ่น 1-2 ผู้บริหารภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณสุข เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

นายกฯ แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ และ สปสช. ในการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในการทำงาน การพัฒนาบุคลากรและพัฒนาระบบสาธารณสุขของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม  เช่น การใช้เทคโนโลยี AI ช่วยวินิจฉัยโรคและรักษาโรคต่าง ๆ เป็นต้น รวมทั้งการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายการรักษาพยาบาลเรื่องฟอกไตฟรี เพื่อให้คนไทยได้รักษาฟรีและบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ขณะเดียวกันในส่วนของภาคเอกชนนั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการที่จะทำให้ประเทศไทยเป็น “health hub of the world” โดยได้กล่าวขอบคุณสำหรับเกียรติยศที่มอบให้ในวันนี้ พร้อมที่จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อทำให้ศักยภาพของประเทศไทยก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง