กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนนักท่องเที่ยวและประชาชนให้ระมัดระวังการสัมผัสแมงกะพรุนพิษ ขณะลงเล่นน้ำทะเล หลังได้รับรายงานผู้บาดเจ็บจากการถูกแมงกะพรุนพิษบริเวณหาดป่าตองและหาดกะหลิม จังหวัดภูเก็ต โดยผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการปวดแสบปวดร้อนและผื่นแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดเทศบาลเมืองป่าตองได้ให้การปฐมพยาบาลด้วยการราดน้ำส้มสายชูและนำส่งโรงพยาบาล ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า แมงกะพรุนพิษมักพบมากในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะหลังฝนตกในบริเวณน้ำตื้นหรือใกล้ชายฝั่ง หากร่างกายสัมผัสเข็มพิษของแมงกะพรุน จะทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน หากเป็นชนิดที่มีพิษรุนแรง พิษอาจกระทบต่อระบบประสาท ระบบหมุนเวียนเลือด และหัวใจ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
จากข้อมูลกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพบว่า ทั่วโลกมีแมงกะพรุนมากกว่า 9,000 สายพันธุ์ โดยกว่า 100 สายพันธุ์มีพิษต่อมนุษย์ ส่วนในประเทศไทย ระหว่างปี 2553–2564 จำแนกได้ 5 กลุ่มตามความรุนแรงของพิษ ตั้งแต่พิษเฉพาะจุดไปจนถึงพิษต่อระบบสำคัญของร่างกาย
กรมควบคุมโรคแนะนำ วิธีปฐมพยาบาลเมื่อสงสัยถูกแมงกะพรุนพิษ ดังนี้
1. รีบขึ้นจากน้ำทะเลทันที และแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หรือโทรสายด่วนแพทย์ฉุกเฉิน 1669
2. ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่ง ห้ามขัดถูหรือเกาบริเวณที่สัมผัส
3. ราดน้ำส้มสายชูความเข้มข้น 4–6% ต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที ห้ามใช้น้ำจืด เหล้าขาว หรือแอลกอฮอล์ราด
4. หากมีอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว
กรมควบคุมโรคขอให้ประชาชน สวมเสื้อผ้ามิดชิดขณะลงเล่นน้ำ หลีกเลี่ยงการเล่นน้ำหลังฝนตก สังเกตป้ายเตือนหรือจุดวางน้ำส้มสายชูบริเวณชายหาด หากพบซากแมงกะพรุนกล่องหรือแมงกะพรุนขนาดใหญ่ ควรงดลงเล่นน้ำในบริเวณนั้น และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
