นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เทศกาลกินเจ ปีนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 – 29 ตุลาคม 2568 โดยคนไทยเชื้อสายจีนเชื่อกันเป็นการละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ และการกินเจอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการและสุขอนามัยยังช่วยเรื่องระบบการย่อยอาหารให้ดีขึ้น ควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคอ้วน เป็นต้น
ด้านนายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อ ควรเลือกรับประทานอาหารเจที่ดีต่อสุขภาพ ตามหลัก 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน ข้าวกล้อง 1 ส่วน โปรตีนจากพืช 1 ส่วน โดยผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคอ้วน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน ไอศกรีม และเบเกอรี่ ส่วนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ควรจำกัดการทานโซเดียม เลี่ยงการเติมเกลือ ซอสปรุงรสเพิ่มเติมในอาหาร งดอาหารหมักดอง และระวังอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย ส้ม ผักสีเข้มต่างๆ เช่น ฟักทอง ชะอม มะเขือเทศ ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและควรออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือสะสม 150 นาทีต่อสัปดาห์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 8 – 10 แก้วต่อวัน หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด มันจัด และเค็มจัด อาหารสำเร็จรูป อาหารที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบมาก ระวังการได้รับโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยสามารถดูข้อมูลจากฉลากโภชนาการและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice) เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อสามารถทำบุญและมีสุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน
