นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ครั้งที่ 3/2568 พร้อมกับเปิดเผยว่า ประเด็นสำคัญที่ที่ประชุมให้ความเห็นชอบในวันนี้คือแนวทางการสนับสนุนค่าอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนในโรงเรียนเอกชนทุกคน ที่ผ่านมาการจัดสรรงบประมาณด้านอาหารกลางวันยังจำกัดเฉพาะกลุ่มนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ หรือขาดแคลนเท่านั้น ซึ่งความเห็นของคณะกรรมาธิการบ่งชี้ว่านักเรียนทุกคนควรได้รับสิทธิอาหารกลางวันอย่างเท่าเทียม ต้องได้รับทุกคน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน สช. ได้ดำเนินการสำรวจจำนวนนักเรียนในโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ เพื่อจัดทำคำของบประมาณสนับสนุนค่าอาหารกลางวันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 3,900 ล้านบาทต่อปี โดยให้การอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชนที่รับเงินอุดหนุนรายบุคคลในระดับก่อนประถมศึกษา – ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายนักเรียนโรงเรียนเอกชน 3,213 แห่ง นักเรียนกว่า 1.4 ล้านคนได้รับประโยชน์ โดยเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 เป็นต้นไป เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนเอกชนสามารถบริหารจัดการด้านโภชนาการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย เพื่อทำหน้าที่พิจารณา ปรับปรุง และพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาเอกชนให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งทบทวนโครงสร้างของคณะกรรมการ กช. และคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ให้เหมาะสมกับบริบทการทำงาน รวมถึงความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนฉบับใหม่ ร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนฉบับใหม่ ได้ดำเนินการจัดประชาพิจารณ์แล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการจัดทำร่างกฎหมายฉบับสมบูรณ์ เพื่อเสนอให้ รมว.ศธ. ลงนามภายในสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน 2568 ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาต่อไป
นางนฤมล กล่าวว่า โลกและระบบการศึกษาเปลี่ยนแปลงไปมาก โรงเรียนเอกชนก็ต้องปรับตัวเช่นกัน กฎหมายเดิมหลายมาตราไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง จึงจำเป็นต้องเร่งปรับปรุงให้ทันต่อยุคสมัย ทั้งในเรื่องสวัสดิการครูเอกชน คุณสมบัติของผู้รับอนุญาต เรื่องการแก้ไขปัญหาการออกใบอนุญาตครูต่างชาติที่มีปัญหาในการจ่ายค่าชดเชย รวมถึงการจ่ายค่าชดเชยในหลากหลายมาตรา ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะต้องไปพิจารณากันต่อในสภา โดยคณะกรรมาธิการจะได้ดำเนินการพิจารณา ปรับปรุง หรือแก้ไขมาตราต่างๆ ให้เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้หวังว่าจะสามารถบรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมสภาได้โดยเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียน
โลกและระบบการศึกษาเปลี่ยนแปลงไปมาก โรงเรียนเอกชนก็ต้องปรับตัวเช่นกัน กฎหมายเดิมหลายมาตราไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง จึงจำเป็นต้องเร่งปรับปรุงให้ทันต่อยุคสมัย ทั้งในเรื่องสวัสดิการครูเอกชน คุณสมบัติของผู้รับอนุญาต เรื่องการแก้ไขปัญหาการออกใบอนุญาตครูต่างชาติ รวมถึงการจ่ายค่าชดเชยในหลากหลายมาตรา ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะต้องไปพิจารณากันต่อในสภา โดยคณะกรรมาธิการจะได้ดำเนินการพิจารณา ปรับปรุง หรือแก้ไขมาตราต่างๆ ให้เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้หวังว่าจะสามารถบรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมสภาได้โดยเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียน
