นางสาวญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินมาตรการดูแลราคาข้าวนาปี ปีการผลิต 2568/69 ว่า ในปีนี้ มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าว ทั้งหมด 217 ราย จาก 44 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะดึงผลผลิตข้าวเปลือกนาปีเข้ามาเก็บสต๊อกโดยมีเป้าหมาย 4 ล้านตัน ภายใต้วงเงิน 642 ล้านบาท ผู้ประกอบการจะเริ่มรับซื้อและเก็บสต็อกตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ถึง 31 มีนาคม 2569 และจะสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ วันที่ 31 ตุลาคม 2570 โดยจะรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร และเก็บสต็อกไว้ 2 – 6 เดือนรัฐจะชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี โดยเชื่อว่าการดำเนินโครงการจะช่วยดึงผลผลิตออกจากตลาดได้และจะส่งผลดีต่อราคาข้าวในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดกระจุกตัว และจะสามารถรักษาเสถียรภาพราคาข้าวภายในประเทศได้
นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน เตรียมเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) พิจารณามาตรการดูแลราคาข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2568/69 เพิ่มเติม โดยให้ 3 หน่วยงานคือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ามารับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร เป้าหมาย 3 ล้านตัน เพื่อช่วยดึงราคาข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตกำลังจะออกสู่ตลาดมาก ในส่วนของการเร่งรัดการระบายข้าว พร้อมทั้งผลักดันสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น สนับสนุนเครื่องสีข้าว ช่วยพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าจำหน่าย
สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวล่าสุด ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2568 ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ในช่วง 15,200–16,500 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกปทุมธานี 8,200–8,700 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้า 6,100–6,800 บาทต่อตัน และข้าวเปลือกเหนียว 8,000–8,700 บาทต่อตัน ถือเป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนว่าตลาดมีความเชื่อมั่นในทิศทางนโยบายข้าวของรัฐบาล ซึ่งเมื่อมาตรการต่างๆ เริ่มขับเคลื่อนอย่างเต็มรูปแบบ จะยิ่งสร้างแรงหนุนให้ราคาข้าวปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง








