“ศุภมาส” ขับเคลื่อนการประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงตลอดทั้งปี

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ครั้งที่ 1/2568 เพื่อเตรียม
ความพร้อมและหารือถึงแผนการทำงาน เนื้อหา และรูปแบบการเผยแพร่ข้อมูล โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อขับเคลื่อนการประชาสัมพันธ์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งหมดอย่างเป็นระบบ รอบด้าน ถูกต้อง และเหมาะสม เพื่อให้งานพระราชพิธีครั้งนี้ดำเนินไปอย่างสง่างามและสมพระเกียรติ โดยมีผู้แทนจากหลากหลายหน่วยงานสำคัญ ทั้งภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วม

นางสาวศุภมาส ได้เน้นย้ำ การประชาสัมพันธ์ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที เพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เข้าใจในวงกว้าง และเพื่อแสดงความอาลัยอย่างสูงสุดและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้เป็นที่รักและเคารพเทิดทูนยิ่งของปวงชนชาวไทย

คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันวางแผนและกำหนดกรอบระยะเวลา (Timeline) เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ เป็นไปอย่างทันท่วงทีและครอบคลุมในทุกมิติ โดยมุ่งเน้นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ พระราชประวัติ และพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ท่านเป็นสำคัญ เพื่อเตือนใจให้ประชาชนระลึกถึงคุณูปการต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงสร้างไว้เป็นแบบอย่าง โดยใช้ช่องทางสื่อสารที่ได้รับความนิยมสูง เช่น TikTok Facebook และสื่อออนไลน์อื่นๆ นำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่สร้างสรรค์ ทันสมัย น่าสนใจ และเข้าใจง่าย สื่อสารสาระสำคัญของงานพระราชพิธีและพระมหากรุณาธิคุณได้อย่างสมพระเกียรติ ตลอดจนเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนได้มีช่องทางในการร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

นอกจากนี้ยังเตรียมใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการสื่อสาร ด้วยการพัฒนา Chatbot สามารถให้บริการข้อมูลแก่ประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบ เปิดเว็บไซต์เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนได้รับคำตอบที่ถูกต้อง รวดเร็ว และจะมีการจัดตั้งศูนย์สื่อมวลชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องได้ทางเว็บไซต์พระลาน (Phralan.in.th) และเพจพระลาน ควบคู่ไปกับ เพจกรมประชาสัมพันธ์

ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ 1/2568
โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

นายภราดร เปิดเผยว่า การประชุมได้หารือการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ได้แก่

มหาปราสาท โดยกรุงเทพมหานคร

  • ด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยกระทรวงคมนาคม
  • ด้านการจราจรและสถานที่จอดรถยนต์ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
  • ด้านการให้บริการดูแลอาหารเครื่องดื่มและการบริจาคสิ่งของสำหรับประชาชน โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
  • ด้านการจัดจิตอาสาดูแลประชาชน โดยสำนักงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักนายกรัฐมนตรี
  • ด้านการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน โดยกรมประชาสัมพันธ์
  • ด้านการแพทย์และการพยาบาลเพื่อดูแลประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร
  • ด้านการติดตามสถานการณ์และการข่าว โดยสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

ศูนย์ประสานงานการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (ศปพ.) ถือเป็นศูนย์ประสานงานกลางของรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกและประสานงานกับทุกภาคส่วน โดยศูนย์ตั้งอยู่ที่เรือนพอเพียง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 06 2201 7232 และสายด่วน 1111 ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาล รวมทั้งกล่องข้อความเฟซบุ๊ก “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี” facebook.com/OPM.Society

อีกทั้ง นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้ขอความร่วมมือองค์การ 5 ศาสนา จัดทำแนวทางการปฏิบัติตามหลักศาสนา ให้ศาสนิกชนของแต่ละศาสนาร่วมแสดงความอาลัยและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ศาสนาพุทธ มหาเถรสมาคมได้มีมติเรื่องแนวทางการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศล ให้ทุกวัดทั่วราชอาณาจักรและวัดไทยในต่างประเทศ จัดโต๊ะหมู่บูชาประดิษฐานพระฉายาลักษณ์พร้อมตั้งเครื่องราชสักการะภายในพระอุโบสถประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระพุทธมนต์ หรือ สวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 30 วัน ให้คณะสงฆ์เจริญจิตตภาวนาหลังทำวัตรสวดมนต์เย็นทุกวัน

ศาสนาอิสลาม จุฬาราชมนตรี ได้ประกาศแสดงความอาลัยและชาวไทยมุสลิมแต่งกายสุภาพสีเรียบหากเข้าแสดงความอาลัยพระบรมศพ ให้ยืนตรงสงบนิ่งหรือก้มศีรษะคำนับอย่างเหมาะสม ให้มัสยิดทั่วประเทศอ่านคำถวายอาลัยก่อนละหมาดวันศุกร์ และให้กล่าวคุตบะห์วันศุกร์ถึงพระราชกรณียกิจ ส่งเสริมให้มัสยิดและศูนย์การเรียนรู้ชุมชนจัดนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ กับศาสนาอิสลาม

ศาสนาคริสต์ เชิญชวนให้วัดคาทอลิก สถานศึกษาทั่วประเทศจัดตั้งพระฉายาลักษณ์ แจ้งให้คริสตจักร
จัดพิธีอธิษฐานถวายต่อพระเจ้า รวมทั้งเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระองค์ และปรับกิจกรรมในช่วงการไว้ทุกข์ให้เหมาะสม

ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู จัดพิธีสวดมนต์ขอพรต่อเทพเจ้า เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สวดมนต์ ณ วัดเทพมณเฑียร เป็นเวลา 90 วัน

ศาสนาซิกข์ จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศลสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา รักษาศีล เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศล พร้อมตั้งเครื่องราชสักการะภายในวัดซิกข์ และทำพิธีสวดอัรดาส อุทิศถวายพระราชกุศล พร้อมเผยแพร่พระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ

สำหรับการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลและแสดงความอาลัย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดพิธีบำเพ็ญกุศลและแสดงความอาลัย ในวาระครบ 7 วัน (สัตตมวา :สัด-ตะ-มะ-วาน) 15 วัน (ปัณรสมวาร : ปัน-นะ-ระ-สะ-มะ-วาน) 50 วัน (ปัญญาสมวาร : ปัน-ยา-สะ-มะ-วาน) และ 100 วัน (สตมวาร : สะ-ตะ-มะ-วาน) รวมถึงการจัดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จ         พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และในต่างประเทศ และให้ประชาชนร่วมบำเพ็ญกุศลในวันที่ 30 ตุลาคม 2568 วันแห่งการเสด็จสวรรคตครบสัตตมวาร (7 วัน) โดยพร้อมเพรียงกัน ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ณ สถานที่ที่จังหวัดกำหนด สำหรับการแต่งกาย ข้าราชการพลเรือน/พนักงานรัฐวิสาหกิจ เครื่องแบบปกติขาว ไว้ทุกข์ ไม่สวมหมวก ข้าราชการทหาร/ตำรวจ เครื่องแบบปกติขาว ไว้ทุกข์ ไม่สวมหมวก พร้อมกระบี่ ถุงมือ องค์กรเอกชน นักเรียน นักศึกษา ชุดเครื่องแบบของหน่วยงาน ไว้ทุกข์ หรือชุดไทยอมรินทร์โทนสีดำ และประชาชน ชุดสุภาพ ไว้ทุกข์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง