นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร ( 7 วัน ) เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีคณะรัฐมนตรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานทำเนียบรัฐบาล แต่งกายด้วยเครื่องแบบปกติขาวไว้ทุกข์ เข้าร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์ และมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะรวม 10 รูป เป็นผู้ประกอบพิธี
นายพิพัฒน์ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานทำเนียบรัฐบาล ได้ร่วมพิธีตักบาตรสมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ ก่อนเริ่มพิธีแสดงความอาลัย ที่บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

นายพิพัฒน์ ในฐานะประธานในพิธีกล่าวแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ระบุว่าตามที่รัฐบาลได้กำหนดจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพิธีแสดงความอาลัย ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี และคู่สมรส ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างน้อมจิตมั่นร้อยรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี พสกนิกรทั้งหลายต่างประจักษ์ถึงพระราชวิริยะอุตสาหะ และพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินับพันโครงการที่ปรากฏผลเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ รวมถึงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ที่ยังคงสร้างคุณประโยชน์และความมั่นคงในชีวิตแก่พสกนิกรมาจนถึงปัจจุบัน สมดังพระราชปณิธานที่ทรงมุ่งหวังให้ปวงประชาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและเกิดการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ด้วยพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นที่ทรงมีต่อปวงประชา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นดั่ง “แม่ของแผ่นดิน” ทรงเป็นมิ่งขวัญกำลังใจและสถิตอยู่ดวงหทัยของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า พร้อมน้อมปฏิญาณว่าจะสืบสานพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดี ปฏิบัติดี รักษาชาติบ้านเมือง และสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนสืบไป จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีได้ยืนสงบนิ่งร่วมกันเป็นเวลา 1 นาที เป็นอันเสร็จพิธี








