ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บูรณาการกำลังร่วมกับกรมสรรพสามิต และการยาสูบแห่งประเทศไทย ตรวจค้นและจับกุมนายฟาง เหว่ยซิน (Mr. FANG WEIXIN) อายุ 34 ปี สัญชาติจีน พร้อมของกลางบุหรี่เถื่อนจากต่างประเทศรวมกว่า 65,000 ซอง ที่ไม่ได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ภายหลังสืบทราบว่าเป็นเครือข่ายลักลอบจำหน่ายบุหรี่ผิดกฎหมายรายใหญ่ในประเทศไทย
โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น บ้านพักในซอยรัชดาภิเษก 10 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง และอาคารพาณิชย์ในซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร หลังสืบสวนพบว่ามีการลักลอบเก็บซุกซ่อนบุหรี่เถื่อนเพื่อจำหน่าย จากการตรวจค้นจุดที่ 1 ภายในบ้านพักย่านรัชดา พบบุหรี่จีนเถื่อน 40 ลัง (20,000 ซอง) ซุกซ่อนอยู่ในห้องใต้ดิน พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือหลายเครื่องและกล่องพัสดุที่ใช้จัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ส่วนจุดที่ 2 อาคารพาณิชย์ร้างย่านลาดพร้าว พบของกลางเพิ่มเติมอีก 90 ลัง (45,000 ซอง) รวมของกลางทั้งหมดกว่า 65,000 ซอง
พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ สังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดเผยว่า การสืบสวนพบขบวนการนี้ใช้แพลตฟอร์ม Telegram เป็นช่องทางหลักในการจำหน่าย โดยมีสมาชิกกว่า 4,000 คน และมีการโฆษณาเป็นภาษาจีน ใช้สโลแกนว่า “ใส่ใจทุกขั้นตอน เพื่อให้ถึงมือคุณอย่างมั่นใจ” พร้อมให้บริการจัดส่งถึงบ้าน จากการแฝงตัวเข้ากลุ่ม เจ้าหน้าที่พบว่านายฟาง เหว่ยซิน เป็นทั้งแอดมินและผู้จัดจำหน่าย โดยใช้บ้านพักเป็นคลังสินค้าหลักและอาคารพาณิชย์อีกแห่งเป็นจุดพักของ ก่อนขยายผลจับกุม
จากการสอบสวนนายฟางให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้จัดการและจัดจำหน่ายบุหรี่เถื่อนในประเทศไทย ทำหน้าที่บริหารช่องทางออนไลน์ทั้ง Telegram และ Tiktok โดยรับคำสั่งจากบอส ชาวจีน ซึ่งอยู่ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ทำงานเป็นระบบครบวงจร ทั้งการนำเข้า การโฆษณาและการจัดส่งสินค้า
ผู้ต้องหาระบุว่าได้รับค่าจ้างเดือนละ 50,000 บาท พร้อมค่าคอมมิชชันตามยอดขาย โดยไม่เคยพบตัวนายจ้าง จะติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การทั้งหมดและอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบเส้นทางการนำเข้า ซึ่งคาดว่าอาจลักลอบเข้ามาทางประเทศเพื่อนบ้าน
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา นายฟาง เหว่ยซิน รวม 3 ข้อหา ได้แก่
1. ช่วยซ่อนเร้น จำหน่าย หรือครอบครองของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 เท่าของราคาของ รวมค่าอากรแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. มีไว้ในครอบครองสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5 เท่าถึง 15 เท่าของค่าภาษีที่ต้องเสีย หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. เป็นคนต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000–100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านว่าที่ร้อยตรี ยงยุทธ ภูมิประเทศ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า คดีนี้ถือเป็นรายใหญ่ที่สามารถจับกุมได้ในรอบหลายปี ย้ำว่าบุหรี่ทุกซองที่ถูกต้องต้องมีแสตมป์ภาษี (QR Code) สามารถสแกนตรวจสอบได้ว่าเสียภาษีแล้วหรือไม่ หากไม่มีแสตมป์ดังกล่าวถือเป็นบุหรี่ผิดกฎหมาย พร้อมแนะประชาชนเลือกซื้อบุหรี่จากแหล่งจำหน่ายที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันอันตรายและไม่สนับสนุนการลักลอบนำเข้า
ด้านนายวีรศักดิ์ แก้วลอยมา หัวหน้าสำนักป้องกันบุหรี่ผิดกฎหมาย การยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า บุหรี่ที่ลักลอบนำเข้ามาเหล่านี้อาจเป็นของปลอมจากโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน มีสารพิษปนเปื้อน ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพและทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษีจำนวนมาก พร้อมเตือนประชาชนไม่ซื้อบุหรี่ผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะถือว่าผิดกฎหมาย








