นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน นำคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร้านขายของชำกิจโชติ ซอยสามัคคี 42 ตำบลท่าทราย จังหวัดนนทบุรี เพื่อตรวจกิจการร้านธงฟ้า ในช่วงของการเปิดให้ใช้สิทธิในโครงการคนละครึ่งพลัส นายวิทยากร กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้เริ่มโครงการคนละครึ่งพลัสของรัฐบาล ช่วยให้ยอดขายของร้านค้าโดยเฉพาะร้านธงฟ้าที่เข้าร่วมเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 80 และโดยปัจจุบันมีร้านค้าธงฟ้าเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 148,000 ร้าน จากทั้งหมดประมาณ 150,000 ร้าน
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงการตรวจสอบการตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม พบว่าบางร้านเสนอราคาสินค้าที่สูงขึ้นสำหรับการซื้อด้วยโครงการคนละครึ่ง ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีบทลงโทษรุนแรง ทั้งปรับสูงสุดถึง 140,000 บาทและจำคุก 7 ปี พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจนและต้องมีราคาเท่ากันทั้งการซื้อด้วยเงินสดและการใช้สิทธิ์โครงการ
ขณะที่บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยเป็นไปอย่างคึกคัก นางสาว นันนิสา ศศิธรานุรัก ผู้ประกอบการร้านกิจโชติ กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งพลัส ช่วยให้ประชาชนมีการตื่นตัวและออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ประกอบการ อีกทั้งผู้บริโภคยังได้สินค้าคุณภาพในราคาคนละครึ่งอีกด้วย
ขณะที่นางสาวณัฐ (ไม่เปิดเผยนามสกุล) ประชาชนผู้มาซื้อสินค้าภายในร้าน กล่าวว่า หลังจากเปิดให้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งพลัส ได้มาใช้สิทธิที่ร้านธงฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วยประหยัดได้มากเนื่องจากร้านธงฟ้าราคาประหยัด ได้ใช้ร่วมกับคนละครึ่งพลัส สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างมาก
ทั้งนี้ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งพลัส ขณะนี้มียอดใช้จ่ายสะสมกว่า 4,000 ล้านบาท มีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงดารแล้วกว่า 740,000 ร้านค้า จะเริ่มให้บริการสั่งอาหาร Food Delivery Platform ในวันที่ 7พ.ย.นี้ สำหรับประชาชนที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิแนะนำให้ใช้สิทธิครั้งแรกภายใน เวลา23.00 น.ของวันที่ 11 พ.ย. เพื่อป้องกันการถูกตัดสิทธิ
 
				 
													







