นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย ภายใต้นโยบายปกป้องสังคมจากภัยคุกคามทางเศรษฐกิจและสุขภาพ โดยกรมศุลกากรสามารถจับกุมของกลางสำคัญหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 159 ล้านบาท
สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ตรวจสอบสินค้านำเข้าต้นทางจากประเทศจีน พบ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า เช่น รองเท้าแตะ แบตเตอรี่ กระเป๋า และแก้วเก็บอุณหภูมิ รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 55 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังตรวจพบ ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (Nitrous Oxide) หรือก๊าซหัวเราะ จำนวน 2,670 ชิ้น มูลค่ากว่า 44 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้สำแดงในใบขนสินค้า ทั้งนี้ ก๊าซดังกล่าวจัดเป็นสารอันตราย หากสูดดมในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มึนงง และหมดสติ และหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อมได้
ขณะเดียวกัน สำนักงานศุลกากรหนองคาย ตรวจพบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักรวม 20 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางของหญิงชาวไทย 2 ราย บริเวณด่านพรมแดนหนองคาย สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 1 มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
หน่วยงานจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและป้องกันการลักลอบนำเข้า–ส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับสังคมไทย
สำหรับ สถิติการจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย ในปีงบประมาณ 2568 (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568) กรมศุลกากรสามารถจับกุมได้ 48,711 ราย รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท และเฉพาะช่วงเดือนตุลาคม 2568 (1–31 ตุลาคม) จับกุมเพิ่มเติม 3,388 ราย มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท โดยของกลางส่วนใหญ่ ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน บุหรี่ โคคาอีน น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา เฮโรอีน ทองคำ และสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
