นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในโอกาสเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการสุขกาย สบายกระเป๋า ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ว่า โครงการดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจและด้านสุขภาพครั้งสำคัญของประเทศไทยถือเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางการให้บริการทางการแพทย์ครั้งยิ่งใหญ่และรัฐบาลให้ความสำคัญงานด้านสาธารณสุข ซึ่งเกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน ปัจจุบันโรงพยาบาลของรัฐมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมากขณะที่การใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนยังคงมีค่าใช้จ่ายสูงมากทั้งค่ายาและค่าเวชภัณฑ์ ซึ่งโครงการดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาลที่ต้องการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลให้ประชาชน ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้รับบริการที่โรงพยาบาลเอกชนมีข้อมูลที่ชัดเจนสามารถตัดสินใจเลือกซื้อยาในโรงพยาบาลนั้นหรือนอกโรงพยาบาลได้และยังช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลของรัฐ

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีโรงพยาบาลเอกชน สมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 300 แห่ง และร้านขายยาอีกกว่า 3,400 แห่ง ประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย ที่จะใช้บริการสังเกตที่ป้ายสัญลักษณ์ตราโครงการสุขกายสบายกระเป๋า จะทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมด้านราคายา คาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสามารถนำเม็ดเงินนี้ไปสร้างประโยชน์อื่นๆให้กับประชาชน รวมถึงนำไปพัฒนาประเทศ ยกระดับการบริการด้านสาธารณสุขให้มีความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
				
													







