ครม.เห็นชอบ ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก“โมโต จีพี” ปี 2570-2574 วงเงิน 3,997 ล้านบาท

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอให้ประเทศไทย ขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ Moto GP ประจำปี 2570-2574 (5 ปี) โดยมีกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน จำนวน 3,997.86 ล้านบาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน

จากการรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ปัจจุบันการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ Moto GP เป็นรายการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีความเร็วสูงสุดในโลก เป็นกีฬาประเภทมอเตอร์สปอร์ตที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีผู้ติดตามการแข่งขันจากการเข้าชม ณ สนามแข่ง และการรับชมการถ่ายทอดสดผ่านระบบในรูปแบบต่างๆ กว่า 800 ล้านคน หรือจาก 207 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2561-2568 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก Moto GP ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ศักยภาพด้านการจัดการแข่งขันกีฬาของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลก และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการจัดการแข่งขันและการเป็นศูนย์กลางด้านกีฬาในภูมิภาคอาเซียน ส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้มากถึง 24,927 ล้านบาท

จากผลการดำเนินงานในปี 2561-2568 ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว เห็นได้จากผลการสำรวจที่พบว่ามีผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมการรับชมการแข่งขันเฉลี่ยกว่า 206,240 คน ต่อครั้ง ส่งผลให้เกิดรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ ทั้งภาคอุตสาหกรรมที่พัก อาหาร การเดินทาง และการท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อต่อยอดความสำเร็จ และรักษาความต่อเนื่องในการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ Moto GP อีก 5 ปี (2570-2574) โดยมีสาระสำคัญ การจัดการแข่งขัน ดังนี้

ภาพรวมการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ Moto GP

  • เสนอตัวเป็นเจ้าภาพต่อเนื่อง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2570-2574
  • ช่วงเวลาการจัดการแข่งขัน ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ครั้งละ 3 วัน
    โดยประเทศไทยจะเป็นสนามแรกอย่างเป็นทางการในปฏิทินการแข่งขันตลอดทั้ง 5 ปี
  • สถานที่จัดการแข่งขัน สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามแข่งขันที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์จักรยานยนต์ระหว่างประเทศ (Federation of International Motorcycling : FIM)
  • รูปแบบการแข่งขัน แบ่งเป็น 3 รุ่น
    • รุ่น MotoGP เป็นการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก ระดับพรีเมียร์ ใน World Championship อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FIM โดยมีชื่อเต็มคือ FIM Grand Prix World Championship (ใช้รถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ 1,000 ซีซี)
  • รุ่น Moto2 เป็นการแข่งขันรุ่นระดับกลางของการแข่งขัน FIM Grand Prix World Championship (ใช้รถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ 600 ซีซี)
  • รุ่น Moto3 เป็นการแข่งขันรุ่นเริ่มต้นของการแข่งขัน FIM Grand Prix Championship (ใช้รถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ 250 ซีซี)
  • จำนวนผู้ร่วมแข่งขัน คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้ง 3 รุ่น จำนวน 76 คน
  • จำนวนผู้เข้าชม คาดว่าจะมีจำนวนทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 1,050,000 คน
    • ปีที่ 1 จำนวน 200,000 คน
    • ปีที่ 2 จำนวน 205,000 คน
    • ปีที่ 3 จำนวน 210,000 คน
    • ปีที่ 4 จำนวน 215,000 คน
    • ปีที่ 5 จำนวน 220,000 คน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ จะเป็นการสร้างโอกาสให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ตชั้นนำของโลก เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านกีฬายานยนต์ระหว่างประเทศไทยและนานาชาติ ช่วยพัฒนาบุคลากรด้านกีฬายานยนต์ของไทยที่ยั่งยืน ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่และประสบการณ์ด้านต่างๆ จากผู้จัดงานระดับโลก ช่วยให้ไทยได้สัมผัสเทคโนโลยีขั้นสูงในด้านวิศวกรรมยานยนต์ สร้างความตื่นตัวของนักศึกษาสาขา STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เป็นการเพิ่มจำนวนแรงงานที่มีทักษะสูงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านการจัดงานระดับโลก (World Class Event) ส่งเสริมภาพลักษณ์ Sports Tourism ของไทยในเวทีโลก สร้างโอกาสในการแสดงศักยภาพการใช้ Soft Power ของประเทศ รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่าย เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก่อให้เกิดรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจของประเทศในช่วงการจัดการแข่งขันสร้างการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการ การขนส่ง และการค้า โดยเฉพาะธุรกิจอุตสาหกรรมกีฬายานยนต์ ที่สำคัญช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น และช่วยลดอัตราการว่างงานในท้องถิ่น เป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) และนวัตกรรมพลังงานสะอาด

จากการที่ประเทศไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ
Moto GP ประจำปี 2570-2574 มีการประมาณการรายรับอยู่ที่ 700 ล้านบาท แต่การประมาณการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอยู่ที่ 4,697.86 ล้านบาท กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อสมทบค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการดังกล่าว จำนวน 3,997.86 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าลิขสิทธิ์ (หลังจากหักรายรับ) ค่าภาษีที่เกี่ยวข้อง และค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงว่า ค่าลิขสิทธิ์และค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันที่นอกเหนือจากประมาณการจะใช้จ่ายจากเงินรายได้ การบริหารสิทธิประโยชน์การแข่งขัน (ภาคเอกชน) และการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งหากไม่เพียงพอจะจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้หากมีงบประมาณเหลือจ่ายจากการดำเนินงานให้นำส่งคืนเงินตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำนักงบประมาณ ได้พิจารณาแล้วเห็นชอบในหลักการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโต จีพี ประจำปี 2570-2574 กรอบวงเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันจำนวน 3,997.86 ล้านบาท ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อให้โครงการบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นควรให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาด้วยความรอบคอบ รัดกุม โปร่งใส และการบูรณาการทุกภาคส่วน คำนึงถึงความประหยัดและความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณ และดำเนินการโดยพิจารณาถึงผลสัมฤทธิ์ประโยชน์สูงสุดของราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ รวมทั้งขอให้การกีฬาแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องใช้ในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขัน ให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน นำรายได้จากการบริหารสิทธิประโยชน์ในฐานะเจ้าภาพการจัดการแข่งขัน การสนับสนุนจากภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจมาสมทบการดำเนินงาน รวมทั้งการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และการใช้จ่ายจากเงินสะสมการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อให้ภาระต่องบประมาณอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดภาระด้านงบประมาณและการคลังในอนาคต

นอกจากนี้ควรพิจารณาความพร้อมในด้านต่างๆ วิธีการสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการลงทุนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันและแนวทางการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนพิจารณาถึงการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงในกรณีที่เงินรายได้จากการบริหารสิทธิประโยชน์การแข่งขันและเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้งผลกระทบในทางลบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ Moto GP ประจำปี 2570-2574 (5 ปี) และเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง