พายุ “คัลแมกี” ส่งผลประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (5 พ.ย. 68) พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI) บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 11.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 119.4 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. 68 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันตามลำดับ

จากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 7–9 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่มและพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 6–7 พ.ย. 68

ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือพายุคัลแมกี ว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ พื้นที่ราบเชิงเขา รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตรต่างๆ ซึ่ง ปภ. ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการเตรียมความพร้อมรับมือพายุคัลแมกี โดยเน้นย้ำให้จังหวัดและ ปภ. จังหวัด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง