นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ (ฉก.ทส.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดพระยา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับร้องเรียนว่ามีกลุ่มเอกชนลักลอบขุดร่องน้ำปล่อยน้ำลงทะเล ทำลายระบบนิเวศป่าชายเลน
ผลการตรวจสอบพบว่า มีการขุดร่องน้ำจริงในพื้นที่กว่า 2 ไร่ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบรวมกว่า 141 ไร่ โดยน้ำไหลผ่านเขตดูแลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด และกรมป่าไม้ ก่อนระบายออกสู่ทะเล ทำให้สภาพพื้นที่แห้งแตกระแหง และระบบนิเวศเริ่มเสื่อมโทรม
ระหว่างการตรวจสอบ นายมานพ ตั้งบูรพาจิตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำชาวบ้านรวมตัวคัดค้าน โดยอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ทำกินที่ซื้อขายกันต่อเนื่องโดยไม่มีเอกสารสิทธิ พร้อมท้ารัฐวัดแนวเขตพิสูจน์ว่าเป็นป่าชายเลนจริงหรือไม่
พล.ต.ต.นันทชาติ ยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าชายเลนตามราชกิจจานุเบกษาปี 2509 และ 2525 อีกทั้งมติคณะรัฐมนตรีปี 2530 ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ลำดับที่ 11 ของประเทศ ถือเป็นเขตป่าหวงห้ามตามกฎหมาย พร้อมสั่งให้กรมอุทยานฯ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมป่าไม้ ร่วมกันแจ้งความดำเนินคดีผู้บุกรุก
พื้นที่นี้เป็นสมบัติของชาติ การขุดร่องน้ำเช่นนี้สร้างความเสียหายรุนแรงต่อระบบนิเวศ และอาจเป็นการร่วมมือกันเพื่อเปลี่ยนสภาพพื้นที่อ้างสิทธิ์ในอนาคต
ด้านนายเผด็จ ลายทอง รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติ ครม. ปี 2530 ห้ามใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้บางส่วนจะไม่เหลือสภาพป่า แต่ยังถือเป็นเขตสงวนหวงห้าม เนื่องจากเชื่อมโยงกับระบบนิเวศชายฝั่งโดยตรง โดยจะตรวจสอบเอกสารสิทธิย้อนหลัง หากออกหลังปี 2530 จะตรวจสอบด้วยภาพถ่ายทางอากาศและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่นายสุคิด เรืองเรื่อ นักวิชาการป่าไม้ เผยว่า การปล่อยน้ำลงทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาตทำให้ระบบน้ำขึ้นน้ำลงเสียสมดุล ดินพัง ต้นไม้ตาย สัตว์น้ำและนกอพยพหายไป ส่งผลให้การฟื้นฟูป่าชายเลนทำได้ยากยิ่ง








