ด้วยสำนักพระราชวัง ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ทุกวัน เวลา 09.00 – 21.00 น.
เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป
คำแนะนำการแต่งกาย
ประชาชนทั่วไป
– ผู้ชาย เสื้อสีดำมีปก เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเน็กไทสีดำ กางเกงขายาวสีดำทรงสุภาพ
– ผู้หญิง เสื้อมีแขนไม่รัดรูป กระโปรง/ผ้าถุงยาวคลุมเข่า
นักเรียน นักศึกษา สวมเครื่องแบบที่ถูกต้องตามระเบียบ งดสวมเสื้อยืดคอกลม เสื้อแขนกุด กระโปรงสั้นเหนือเข่า กางเกงขาสั้น และกางเกงยีนส์
ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
– แต่งเครื่องแบบปฏิบัติราชการ
– เสื้อเชิ้ตสีดำหรือสีขาวผูกเน็กไทสีดำ หากจะสวมเสื้อสูท หรือเสื้อคลุมให้ใช้สีดำ และสวมปลอกแขนไว้ทุกข์ด้านซ้าย
– ชุดสุภาพตามรัฐพิธี สีดำล้วน กระโปรงยาวคลุมเข่า
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมตรวจสอบความพร้อมและตรวจพื้นที่บริการประชาชน ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจร งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป จะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ระหว่างเวลา 09.00 – 21.00 น. จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน โดยขอความร่วมมือจากกรุงเทพมหานครให้ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อน้ำล้นตลิ่งในบางพื้นที่ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลได้เตรียมแผนรองรับทุกมิติเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย อีกทั้งให้มีการรายงานข้อมูลทุกวัน จากนี้คาดว่าจะมียอด ผู้เดินทางมาเพิ่มมากกว่า 10,000 คนต่อวัน ซึ่งจุดพักคอยสามารถรองรับประชาชนได้ราว 3,000 คน สำหรับบริเวณอุโมงค์หน้าพระลาน จัดพื้นที่รองรับประชาชนไว้รอบละประมาณ 2,000 – 3,000 คน เพื่อพักรอก่อนเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง โดยจะมีการแบ่งรอบและควบคุมอย่างเป็นระบบ พร้อมกำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดูแลด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีปัญหาทางจิตเวชได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมคัดกรอง ตั้งแต่ระดับจังหวัดก่อนเดินทางเข้ามากรุงเทพมหานคร โดยให้กระทรวงมหาดไทยรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยจากทุกจังหวัด ส่งให้กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประกอบการคัดกรองซ้ำอีกครั้ง ในด้านการเดินทาง บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เตรียมรถรับส่งประชาชนไว้แล้ว โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชน เพื่อลดความแออัดของการจราจรและปัญหาที่จอดรถในพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร สำหรับรถบัสจากต่างจังหวัด ที่จะเดินทางเข้ามาเป็นหมู่คณะ ให้เริ่มทยอยเข้ามาตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป โดยให้ประสานแจ้งมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อจัดการรองรับอย่างเหมาะสม ย้ำว่า การดำเนินงานในครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากทุกหน่วยงานมีประสบการณ์และได้ร่วมกันซักซ้อมอย่างละเอียด เพื่อให้การถวายพระเกียรติสูงสุดเป็นไปอย่างสมพระเกียรติและเรียบร้อยที่สุด
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้กรมการขนส่งทางบกตรวจสอบสภาพรถโดยสารที่ไม่ประจำทางอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมขอความร่วมมือจากสายการบินและรถโดยสารประจำทาง ให้คงราคาค่าโดยสารตามปกติ ไม่ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา และหากเป็นขบวนรถหมู่คณะ จะมีรถตำรวจทางหลวงอำนวยการนำขบวน พร้อมจัดรถพยาบาลประกบตลอดเส้นทาง รวมถึงเตรียมสถานพยาบาลในเส้นทางรองรับเหตุฉุกเฉิน
นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ขสมก. ได้จัดรถ Shuttle Bus ให้บริการฟรี จำนวน 14 เส้นทางอำนวยความสะดวกและรองรับการเดินทางของประชาชน โดยรถ Shuttle Bus เส้นทาง M1 – M14 เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่ต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครเข้าสู่สนามหลวง ซึ่งได้การตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. – 6 พ.ย. 68 มีผู้ใช้บริการสะสมกว่า 40,000 คน และตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ขสมก. จะเพิ่มการให้บริการรถ Shuttle Bus วงกลมสนามหลวง อีก 2 เส้นทาง คือ M15 ท่าช้าง – สนามหลวง และ รถโดยสารปรับอากาศ M16 เทวาภิรมย์ – สนามหลวง เพื่อเป็น Feeder ในการอำนวยความสะดวกรับ–ส่งประชาชนภายในพื้นที่สนามหลวง
นอกจากนี้ ภายในจุดบริการรถโดยสาร ณ สนามหลวง ขสมก. ได้เชื่อมต่อระบบ GPS พร้อมทั้งระบบแสดงสถานะและเวลาคาดการณ์จากท่าต้นทางมายังสนามหลวง ของรถ Shuttle Bus ทั้ง 16 เส้นทาง แสดงบนจอภายในจุดบริการรถโดยสาร ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการ ให้ข้อมูลเส้นทางการเดินทาง และจัดสายตรวจพิเศษดูแลความปลอดภัยในการใช้บริการตลอดวัน
โดยรถ Shuttle Bus จำนวน 113 คัน ใน 16 เส้นทาง ผ่านการตรวจสภาพและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
ทุกวัน พร้อมจัดทีมช่างเทคนิคประจำแต่ละเส้นทาง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว นอกจาก
รถ Shuttle Bus แล้ว ขสมก. ยังคงมีรถโดยสารที่ให้บริการในเส้นทางปกติ อีก 18 เส้นทาง ที่มุ่งเข้าสู่สนามหลวง พร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนด้วยความสะดวก ปลอดภัยในทุกเส้นทาง
รถ Shuttle Bus ให้บริการประชาชน จำนวน 16 เส้นทาง ดังนี้
กลุ่มที่ 1 : เส้นทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าและท่าเรือ
M1 รถไฟฟ้าสถานีท่าพระ – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M2 รถไฟฟ้าสถานีสนามไชย – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M3 รถไฟฟ้าสถานีสามยอด – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M4 รถไฟฟ้าสถานีสยาม – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M5 รถไฟฟ้าสถานีวงเวียนใหญ่ – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M6 ท่าเรือสะพานผ่านฟ้า – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.30 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
กลุ่มที่ 2 : เส้นทางเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน
M7 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งพญาไท) – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น.
คันสุดท้าย 19.00 น.
M8 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M9 สถานีขนส่งฯ (สายใต้ใหม่) – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M10 สถานีกรุงเทพหัวลำโพง – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
กลุ่มที่ 3 : เส้นทางเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน
M11 สถานีขนส่งฯ เอกมัย – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M12 บางใหญ่ – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M13 สนามราชมังคลากีฬาสถาน – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M14 สถานีขนส่งฯ (หมอชิต 2) – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.00 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
กลุ่มที่ 4 : เส้นทางวงกลมสนามหลวง
M15 ท่าช้าง – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 07.30 น. คันสุดท้าย 19.00 น.
M16 เทวาภิรมย์ – สนามหลวง เวลาให้บริการจากต้นทาง คันแรก 08.00 น. คันสุดท้าย 22.30 น.
รถโดยสารเส้นทางปกติ 18 เส้นทาง ดังนี้ 3(2-37) 15(4-2) 25(3-7E) 32(2-5) 47(3-41) 53(2-9) 59(1-8) 59(1-7E) 60(1-38) 70(2-14) 80(4-43) 91 91ก 501(1-53) 1-80E 2-32E A4 และ S1
ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางต่างๆ ได้ที่ BMTA Contact Center โทร. 1348 เฟซบุ๊กแฟนเพจ ขสมก. พร้อมบวก หรือ หรือที่เว็บไซต์ www.bmta.co.th








