นายภาณุวัฒน์ เอื้อสามาลย์ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเตรียมพร้อมรับมือการปรับเพิ่มการระบายน้ำของกรมชลประทานผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในระดับ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น เบื้องต้นโบราณสถานในพื้นที่เกาะเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญยังไม่ได้รับผลกระทบ โดยที่วัดไชยวัฒนารามได้เสริมแนวแผงเหล็กป้องกันน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีก 60 เซนติเมตร จากเดิมที่ระดับ 1.80 เมตร ทำให้ปัจจุบันระดับน้ำยังต่ำกว่าแผงป้องกันประมาณ 1 เมตร ส่วนโบราณสถานที่มีความเสี่ยง อาทิ วัดกษัตราธิราช วัดธรรมมาราม วัดพนัญเชิง มีการติดตั้งแผงเหล็กป้องกันและเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันจุดที่มีน้ำไหลซึม โดยระดับน้ำยังต่ำกว่าแนวที่เสริมป้องกันไว้ ส่วนป้อมเพชรและรหัสวิดน้ำเนื่องจากเป็นโบราณสถานริมแม่น้ำที่น้ำจะท่วมเป็นปกติ แต่ได้วางแนวกระสอบทรายเสริมเพื่อป้องกันความเสียหายคลื่นน้ำกระทบกับโครงสร้างของโบราณสถาน
สำหรับโบราณสถานนอกเกาะเมืองที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งริมแม่น้ำลพบุรี บางแห่งอยู่บริเวณกลางทุ่ง เบื้องต้นได้รับรายงานว่า วันนี้ มีน้ำไหลเข้าท่วมโบราณสถานริมคลองสระบัวทาง ซึ่งอยู่ทางด้านทิศเหนือนอกเกาะเมืองกว่า 10 แห่งน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร แต่โบราณสถานทุกแห่งได้รับการเสริมความมั่งคงของโครงสร้างไว้แล้วทั้งหมด หากน้ำลดจึงเข้าไปสำรวจเพื่อเตรียมการบูรณะตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ได้รับข้อสั่งการจากนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ให้เฝ้าระวังและติดตามการระบายน้ำของกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด โดยวันพรุ่งนี้ อธิบดีกรมศิลปากรจะลงพื้นที่เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับมือสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น
