“ชัชชาติ” ลงพื้นที่สะพานพุทธ-ท่าเตียน ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วม ยืนยันสถานการณ์ยังควบคุมได้

นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “แม่น้ำเจ้าพระยามีน้ำอยู่ 2 ส่วนคือ น้ำเหนือกับน้ำหนุน ตอนนี้น้ำเหนือปล่อยมากขึ้น ราว 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่น้ำหนุนน้อยลง ภาพรวมสถานการณ์วันนี้จึงดีกว่าเมื่อวาน โดยในช่วงเที่ยงของวันนี้น้ำขึ้นสูงสุดที่ประมาณ 2.1 เมตร ขณะที่เขื่อนของเราสูง 2.8 เมตร ยังเหลือระยะอีกประมาณ 70 เซนติเมตร ถือว่ายังปลอดภัยอยู่

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวระหว่างลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพุทธ แนวฟันหลอหน้าร้านอาหารโรงรส ท่าเตียน เพื่อประเมินสภาพความแข็งแรงของแนวป้องกันน้ำหนุน รวมถึงตรวจสอบจุดเสี่ยงที่อาจเกิดการรั่วซึมหรือน้ำทะลักเข้าสู่พื้นที่ชุมชนและย่านสำคัญในเขตพระนครซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีนางสาวเกศรัชฎา กลั่นกรอง รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตพระนคร ร่วมลงพื้นที่และรายงานข้อมูล

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้อธิบายด้วยว่า กรุงเทพมหานครใช้วิธี “สูบสู้” คือ สูบน้ำจากท่อที่เก็บน้ำที่รั่วหรือซึมออกมากลับไปยังแม่น้ำ เพื่อไม่ให้ไหลลงถนน พร้อมย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังไม่น่าเป็นห่วง เขื่อนเรายังสูงอยู่ จะมีบางจุดที่เป็นจุดฟันหลอ มีน้ำซึมออกมาบ้างแต่ไม่มาก สถานการณ์โดยรวมยังควบคุมได้ดี มีทีมงานอยู่หน้างานตลอด หากพื้นที่ใดมีปัญหาก็สามารถแจ้งเข้ามาได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าแนวป้องกันน้ำในหลายจุดยังอยู่ในสภาพมั่นคงดี อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้มอบหมายให้เร่งดำเนินการเสริมแนวกระสอบทรายเพิ่มเติมบริเวณรอบร้านอาหารโรงรส เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการทรุดตัวของผนังอาคาร และลดความเสี่ยงที่น้ำจะไหลบ่าเข้าพื้นที่สำคัญโดยรอบ

ด้านสำนักการระบายน้ำได้เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเฝ้าระวังระดับน้ำหนุนสูงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ โดยยืนยันว่ากรุงเทพมหานครมีมาตรการรองรับและระบบป้องกันน้ำท่วมพร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนริมแม่น้ำให้ปลอดภัยสูงสุด

ในส่วนของสำนักงานเขตพระนครได้มีแผนในการเร่งเสริมกระสอบทราย เสริมความมั่นคงแข็งแรง ป้องกันน้ำล้นละทักและจะได้มีการสร้างสะพานไม้ชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้สัญจร รวมทั้งเตรียมกระสอบทรายสำรองไว้ในจุดใกล้เคียงเพื่อใช้ในกรณีเร่งด่วน พร้อมมอบหมายให้ฝ่ายโยธาสำรวจท่าเรือและจุดเสี่ยงทุกแห่ง เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ รวมถึงเสริมกระสอบทรายในจุดที่จำเป็นเร่งด่วนโดยเฉพาะท่าเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรให้กับประชาชน และบล็อกน้ำไม่ให้ล้นออกมาท่วมทางสัญจรหรือบ้านเรือนประชาชน

ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวว่า ในพื้นที่บางส่วนอาจมีกรรมสิทธิ์ที่ดิน มิได้เป็นที่สาธารณะ หากจะกระทำการใดๆ ต้องได้รับความยินยอม จึงต้องมีการหารือและแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตพระนครและกรุงเทพมหานครได้พยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด ซึ่งในจุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง