GISTDA ย้ำพื้นที่เสี่ยง นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร ถูกน้ำท่วมจริง เฝ้าระวัง

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดภาพจากดาวเทียมพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา หลังก่อนหน้านี้คาดการณ์หากมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,700 – 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาลงมาถึงนนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร เกิดน้ำท่วมในหลายจุด พบน้ำท่วมจริงในพื้นที่นั้นทั้งหมด ทั้งบริเวณพื้นที่บางส่วนของปทุมธานี เช่น เทศบาลเมืองปทุมธานี เชียงรากใหญ่ เชียงรากน้อย บางส่วนของจังหวัดนนทบุรีในอำเภอบางกรวย ท่าน้ำนนท์ และพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานครตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น เกาะเกร็ด หรืออำเภอเมืองนนทบุรี ตำบลบางศรีเมือง และบางขนุน หรือบางส่วนของเขตบางพลัดในกรุงเทพมหานคร ขณะนี้น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าสู่บ้านเรือนและเส้นทางสัญจรแล้วหลายจุด

จากการคาดการณ์เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาสอดคล้องกับสถานการณ์จริง แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมและเทคโนโลยีอวกาศผสานกับแบบจำลองภูมิประเทศและข้อมูลการระบายน้ำของกรมชลประทาน ทำให้สามารถประเมินแนวโน้มพื้นที่เสี่ยงได้ล่วงหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ข้อมูลนี้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการบริหารจัดการภัยพิบัติ โดยเฉพาะพื้นที่ปลายแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำช่วงปลายฤดูฝนของทุกปี

ขณะที่สถานการณ์น้ำบริเวณตอนบนของประเทศ ยังไม่ลดการระบายน้ำอาจเพิ่ม ส่วนพื้นที่ตอนล่างกำลังรับปริมาณน้ำเต็มที่ โดยกรมชลประทานพบปริมาณน้ำเหนือจากจังหวัดนครสวรรค์และชัยนาทยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยและมีแนวโน้มหลากลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เขื่อนเจ้าพระยาจำเป็นต้องเพิ่มอัตราการระบายน้ำขึ้นเป็น 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาระดับน้ำเหนือเขื่อนไม่ให้เกินจุดวิกฤติ ทั้งนี้ หากการระบายน้ำเพิ่มขึ้นถึงระดับดังกล่าวจริง จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 20–30 เซนติเมตร ซึ่งจะกระทบต่อพื้นที่ริมฝั่งเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะจุดที่แนวตลิ่งต่ำหรือแนวป้องกันชำรุด ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นในหลายพื้นที่ เช่น เทศบาลนครนนทบุรี เทศบาลเมืองปทุมธานี สำนักงานเขตบางพลัด รวมถึง พื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงใกล้เคียงอื่นๆ เร่งติดตั้งแนวกระสอบทรายเสริม พร้อมเพิ่มเครื่องสูบน้ำและเฝ้าระวังระดับน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนประชาชนที่อาศัยในชุมชนริมน้ำได้รับการแจ้งเตือนให้เคลื่อนย้ายของใช้สำคัญไว้ในที่สูงและเตรียมพร้อมกรณีระดับน้ำสูงกว่าคาดการณ์

สำหรับการใช้ดาวเทียมที่มีการเปรียบเทียบในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นตามคาดการณ์และสะท้อนถึงศักยภาพของข้อมูลภูมิสารสนเทศในการวางแผนรับมือภัยพิบัติได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการใช้ข้อมูลลักษณะนี้ช่วยให้หน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่นสามารถเตรียมการได้รวดเร็ว ลดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้มากขึ้น ทั้งนี้ GISTDA ได้วางแผนและติดตามภาพถ่ายจากดาวเทียมต่อเนื่องทุกวันเพื่อประเมินแนวโน้มพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติม หากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำในระดับ 2,900 – 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อาจทำให้ปริมาณน้ำขยายเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครมากขึ้น โดยเฉพาะแนวแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก

ภาพรวมข้อมูลทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 4 – 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมาจากดาวเทียมจาก พบพื้นที่น้ำท่วมแล้วทั้งประเทศ 2,395,366 ไร่ หนักสุดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 442,519 ไร่ มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 47,729 หลัง ประชากรได้รับผลกระทบแล้วกว่า 704,610 คน พื้นที่นาข้าวเสียหายแล้ว 371,475 ไร่ โรงเรียนได้รับผลกระทบ 104 แห่ง โรงพยาบาล 3 แห่ง และถนน 1,974 สาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง